posttoday

คนไทยต้องการอะไรหลังการเลือกตั้ง

02 สิงหาคม 2561

เราอาจต้องทบทวนคำว่า “ประชาธิปไตย” ในเมืองไทยกันอีกครั้งว่า จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ และประชาธิปไตยแบบไหนที่เหมาะสมกับประเทศไทย “เลือกตั้งคือประชาธิปไตย” นั้นจริงหรือ

เราอาจต้องทบทวนคำว่า “ประชาธิปไตย” ในเมืองไทยกันอีกครั้งว่า จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ และประชาธิปไตยแบบไหนที่เหมาะสมกับประเทศไทย “เลือกตั้งคือประชาธิปไตย” นั้นจริงหรือ

*****************************

โดย...ภุมรัตน์ ทักษาดิพงศ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

“นิด้าโพล” ซึ่งเป็นโพลที่เชื่อถือได้ เปิดเผยผลการสำรวจในหลายประเด็นที่น่าสนใจและน่าจะบอกทิศทางการเมืองในอนาคตได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่อารมณ์ของคนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ซึ่งนิด้าโพลคงสำรวจเป็นระยะ

ผู้ตอบคำถามร้อยละ 31.26 สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้ง ร้อยละ 14.96 สนับสนุน สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ส่วน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ร้อยละ 10 เมื่อถามว่าจะเลือกพรรคการเมืองใดในการเลือกตั้ง ปรากฏว่า พรรคเพื่อไทย มาเป็นอันดับหนึ่ง ได้ร้อยละ 31.19 พรรคพลังประชารัฐที่มีข่าวว่าสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ร้อยละ 21.88 พรรคประชาธิปัตย์ได้มาเป็นอันดับสาม คือ ร้อยละ 16.47

เป็นที่น่าสังเกตว่าโพลทุกสำนักที่มีการสำรวจที่ผ่านๆ มาหลายสิบครั้ง ผลจะออกมาตรงกัน คือ ผู้ตอบคำถามส่วนใหญ่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับสองเสมอ โดยคะแนนห่างจาก พล.อ.ประยุทธ์ เกือบครึ่งต่อครึ่ง ทิ้งห่างอภิสิทธิ์ซึ่งมาเป็นอันดับสามทุกครั้ง แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับความนิยมในระดับดีตลอดมาในภาพรวมของประเทศ แม้ในภาคอีสานและเหนือ ช่วงแรก พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นอันดับสองรองจากตัวแทนพรรคเพื่อไทย แต่ระยะหลัง พล.อ.ประยุทธ์ คะแนนตีตื้นจ่ออันดับหนึ่งมาติดๆ ขึ้นอยู่กับ “คนเมือง” และ “คนชนบท” ด้วย

เป็นที่น่าสนใจว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ที่ถูกสุ่มตัวอย่างในโพลสำนักต่างๆ จึงเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป จุดแข็งของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ ความตั้งใจจริง การทุ่มเทชีวิตทำงานให้กับชาติบ้านเมือง เป็นคนตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์สุจริตทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน รัฐมนตรีในรัฐบาลไม่มีข่าวเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามพยายามหาเหตุโจมตี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในเรื่องนาฬิกา แต่ก็มีผลกระทบน้อยมาก 4 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศโดยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สัมผัสได้ ประชาชนส่วนใหญ่พอใจ หากไม่มีสถานการณ์พลิกผันแบบไม่คาดฝัน พล.อ.ประยุทธ์ ก็น่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

แต่กลุ่มสูญเสียอำนาจจะสู้เต็มที่และทำทุกวิถีทางที่จะกีดกันไม่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ เพราะหาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำรัฐบาลต่อ กลุ่มสูญเสียอำนาจจะหมดสิ้นโอกาสในการช่วยเหลือพรรคพวกและครอบครัวไม่ให้ติดคุก หรือออกกฎหมายนิรโทษกรรมหรือเอาเงินที่ถูกยึดคืน ฯลฯ ดังนั้นกลุ่มสูญเสียอำนาจต้องใช้กลยุทธ์ทุกรูปแบบและทำทุกวิถีทางที่จะเร่งให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว และทำให้พรรคตนเองได้รับเลือกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นนับแต่นี้ไปเราจะเห็นการต่อสู้ทางการเมืองที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลงานเด่นประการหนึ่งของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คือ การฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง การจัดการกับกลุ่มอิทธิพลต่างๆ ซึ่งทำให้ประชาชนพอใจมาก แม้แต่ปัญหาเศรษฐกิจที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามหยิบยกขึ้นมาโจมตีรัฐบาล ก็ยังมีคนนำผลงานด้านเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลยิ่งลักษณ์กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เปรียบเทียบตัวเลขให้เห็นชัดเจน ปรากฏว่าเศรษฐกิจสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ดีกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ทุกด้านจนเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ แม้ฝ่ายตรงข้ามหันมาใช้ประเด็นเศรษฐกิจรากหญ้ามากล่าวหารัฐบาลอีก แต่รัฐบาลชุดนี้มีโครงการมากมายช่วยเหลือเศรษฐกิจระดับรากหญ้า ทั้งนี้มีตัวเลขและโครงการช่วยเหลือคนรากหญ้าปรากฏชัดเจน โดยเฉพาะราคาข้าวที่สูงขึ้นมากโดยไม่ต้องใช้นโยบายจำนำข้าวที่ทำความเสียหายร้ายแรงแก่ประเทศชาติ

ถ้าพิจารณากันด้วยใจเป็นธรรมอย่างตรงไปตรงมาและไม่มีอคติ เอาความรักความเกลียดวางไว้ข้างๆ เราต้องยอมรับว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้แก้ไขปัญหาของบ้านเมืองทั้งด้านความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เศรษฐกิจ สังคม ได้ผลในระดับที่น่าพอใจ แม้หลายคนไม่ชอบบุคลิกส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีคนนี้ แต่จากการเฝ้าสังเกตตลอดมา พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนตรงไปตรงมา โผงผาง คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น จริงใจและจริงจังทุ่มสุดชีวิตในการทำงาน เป็นคนที่รู้จริง รู้แจ้ง เพราะอ่านรายงานที่ส่งมาทุกตัวอักษร เมื่อรู้เยอะก็อยากให้ประชาชนรู้ด้วย เขียนกลอน ก็เก่ง แต่งเพลงก็ได้ นักกีฬาคนไหนมาเยี่ยมท่านก็เล่นกับเขาได้หมด เล่นแบด เตะบอล เตะตะกร้อ ขี่จักรยานยนต์ ฯลฯ และเล่นได้ดีด้วยเพราะเป็นนักกีฬามาก่อน ท่านเป็นผู้นำที่โปร่งใสทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน และเป็นผู้นำที่ไม่กลัวสื่อมวลชน ซึ่งผิดกับนักการเมืองทั้งหลาย จุดอ่อนที่หลายคนพูดถึง คือ พอถูกยั่วยุแล้วฉุนเฉียว โมโหง่าย นักข่าวก็ชอบแหย่ท่าน บางคนบอกว่าปากร้ายแต่ใจดี

ผู้เขียนไม่ได้รู้จักท่านเป็นการส่วนตัว แต่ได้เฝ้าติดตามและแอบนิยมชมชอบการบริหารบ้านเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดมา จนถึงขณะนี้ยังมองไม่เห็นใครที่จะบริหารประเทศในช่วงที่บ้านเมืองอยู่ในช่วงวิกฤตได้ดีเท่าท่าน แต่ขอเป็นกองเชียร์อยู่ห่างๆ ดีกว่า บอกตรงๆ ว่าไม่กล้าเข้าใกล้ท่าน

พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำที่เหมาะกับสถานการณ์บ้านเมืองใน “ยามวิกฤต” และใน “ระยะเปลี่ยนผ่าน”แต่ต้องเข้ามาตามกระบวนการที่รัฐธรรมนูญกำหนด เราต้องการผู้นำแบบนี้ที่มีบุคลิกเฉพาะและจำเป็นต้องมีอำนาจพิเศษเพื่อฟื้นฟูประเทศ แม้สิทธิเสรีภาพบางประการจะถูกจำกัดบ้าง แต่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย กลับรู้สึกว่าดีเสียอีกที่บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ฝรั่งและชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยจากประเทศประชาธิปไตย แปลกใจว่าทำไมนายทหารที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการ ยึดอำนาจเข้ามา จำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชน ท่าทางเกรี้ยวกราด แต่กลับได้รับความนิยมจากคนไทยเป็นอันดับหนึ่งทุกครั้งจากโพลสำนักต่างๆ เหนือนักการเมืองที่เรียกตัวเองว่าเป็นนักประชาธิปไตย
ทั้งหลาย

หรือว่าเราจะต้องทบทวนคำว่า “ประชาธิปไตย” ในเมืองไทยกันอีกครั้งว่า จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ และประชาธิปไตยแบบไหนที่เหมาะสมกับประเทศไทย “เลือกตั้งคือประชาธิปไตย” นั้นจริงหรือ จริงมากน้อยเพียงใด

ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้นที่งงๆ กับประชาธิปไตยไทย แต่เวลานี้นักคิดนักเขียนของฝรั่งซึ่งเป็นต้นตอของประชาธิปไตยก็ยังงงๆ เหมือนกันว่า ประชาธิปไตยตะวันตกในระยะหลายปีที่ผ่านมา ทำไมมันบิดเบี้ยว ไม่เป็นไปตามที่คนต้นคิดประชาธิปไตยได้คิดได้เขียนกันไว้ เวลานี้เกิดประชาธิปไตยในรูปแบบและชื่อต่างๆ มากมาย สำหรับคนไทยนั้นก็ควรจะสร้างประชาธิปไตยแบบไทยๆ กันเสียที หลังจากลอกแบบของฝรั่งมาใช้หลายครั้งแล้ว