ในความทรงจำ
เมื่อครั้งยังเป็นเด็กเล็กๆ ผมนอนอยู่ห้องเดียวกับยาย ในห้องนอกจากจะมีหิ้งพระแล้ว ก็มีรูปรูปหนึ่งแขวนไว้เยื้องๆ กันด้วย
โดย...นายปกรณ์ นิลประพันธ์
เมื่อครั้งยังเป็นเด็กเล็กๆ ผมนอนอยู่ห้องเดียวกับยาย ในห้องนอกจากจะมีหิ้งพระแล้ว ก็มีรูปรูปหนึ่งแขวนไว้เยื้องๆ กันด้วย
ในกรอบไม้สีเหลืองนั้นเป็นรูปวาด มีผู้ชายไว้หนวด หน้าตาใจดี แต่งตัวอย่างทหารเสื้อแดงที่เราเห็นในหนังฝรั่งแต่สีขาว พู่หมวกก็สีขาวยืนกุมกระบี่อยู่ท่าทางโก้มาก บนพื้นที่ยืนอยู่นั้นมีคนจำนวนมากทั้งผู้ชายผู้หญิงเด็กเล็กเด็กโตหมอบกราบแทบเท้าอยู่เต็มไปหมด
ผมเห็นยายกราบพระเสร็จ ก็จะกราบรูปนี้ด้วยทุกเช้าทุกค่ำ วันหนึ่งด้วยความสงสัยก็เลยถามยายว่ารูปนี้เป็นรูปใคร ยายบอกผมว่าเป็นรูปพระปิยมหาราช ท่านเป็นเทวดาและสอนให้ผมทำตามท่านเพื่อความเป็นมงคลชีวิต
แม้กระทั่งโรงเรียนที่ผมเรียนนั้นถึงจะเป็นโรงเรียนวัด แต่ก็มีรากฐานมาจากพระราโชบายของในหลวงรัชกาลที่ 5 ที่มีพระราชประสงค์ให้ทรงจัดการศึกษาให้ราษฎรมีความรู้ ไม่โง่เขลาเบาปัญญา มีวิชาไปทำมาเลี้ยงชีพ เพราะทรงตระหนักว่าความใฝ่รู้ ความรู้ รวมทั้งคุณธรรมจริยธรรม จะเป็นรากฐานอันสำคัญของการพัฒนาสยามประเทศให้เจริญทัดเทียมกับฝรั่ง
ที่สำคัญยิ่งคือ "ทรงเลิกทาส"
การเลิกทาสในสยามประเทศยุคนั้น ในทัศนะผมเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะเป็นการรับรองสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ว่าทุกคนเท่าเทียมกัน ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงทำก่อนฝรั่งมังค่านักประชาธิปไตยเสียอีก ทำโดยที่ทาสไม่ต้องลุกฮือขึ้นมาเรียกร้อง ไม่มีการรบราฆ่าฟันกันเพราะสูญเสียผลประโยชน์จากการค้าทาสเหมือนในเมืองฝรั่งด้วย
นี่คือสุดยอดแห่งอัจฉริยภาพแห่งพระปิยมหาราช
เมื่อโตขึ้นผมก็ได้เห็นภาพข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมเยียนอาณาประชาราษฎร์ ทั่วทุกขอบขัณฑสีมาไม่มีวันหยุด เพื่อให้ประชาชนทั้งแผ่นดินอยู่ดี มีสุข
ยายก็คงเห็นเหมือนกันเพราะดูอยู่ด้วยกัน ต่อมารูปที่ข้างหิ้งพระจึงมีรูปเทวดาเพิ่มขึ้นอีกรูปหนึ่ง คือพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาล ที่ 9 ที่ยายตัดมาจากปฏิทินมาใส่กรอบ
เมื่อผมเข้าทำงานจึงได้ทราบว่าที่ทำงานของผม คือ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นั้นมีต้นกำเนิดมาจาก "เคาน์ซิลออฟสเตด" อันเป็น "ที่ปฤกษาในราชการแผ่นดิน" ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และมีบทบาทสำคัญในการตรากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลิกทาสในครั้งกระนั้น
ทั้งเมื่อกลายเป็น "กองกรรมการชำระประมวลกฎหมาย" ก็มีส่วนสำคัญในการยกร่างประมวลกฎหมายทั้ง 4 ฉบับ เพื่อจัดการกับข้อเรียกร้องสิทธิสภาพนอกอาณาเขตของฝรั่งด้วย และเมื่อกลายมาเป็น "กรมร่างกฎหมาย" ในเวลาต่อมา และมาเป็น "สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา" ในปัจจุบัน เราก็ยังปฏิบัติภารกิจสำคัญด้านกฎหมายของแผ่นดินมาอย่างต่อเนื่อง
ผมภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานเล็กๆ ที่มีเกียรติยิ่ง แห่งนี้
เสียดายมากตอนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2526 พระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงทั้งสองพระองค์ที่ข้างหิ้งพระนั้นหายไปกับสายน้ำ แต่ผมยังคงปฏิบัติกิจวัตรที่ยายเคยสอนไว้มาจนทุกวันนี้ แม้ยายจะจากไปหลายปีแล้ว
ยายผมเป็นชาวสวนธรรมดา ไม่ใช่แม่พลอยในนิยาย
ยายเกิดในรัชกาลที่ 5 และเป็นสตรี 5 แผ่นดิน