posttoday

ชีวิตพระราชทาน

18 ตุลาคม 2559

เฟซบุ๊ก อรสม สุทธิสาคร

เฟซบุ๊ก อรสม สุทธิสาคร

ชีวิตพระราชทาน

"อ้าว...ทำไมโกนหัวกันล่ะ"

ฉันทักลูกศิษย์ชาวบางขวางด้วยความสงสัย เมื่อพบหน้ากันที่แดนการศึกษาของเรือนจำไม่กี่วันก่อน

มองไปมองมา ใช่แต่นักเรียนของเรา ทั้งนักศึกษาปริญญาโทและนักเรียนพุทธศาสตร์บัณฑิตหลายชีวิตก็พร้อมใจกันโกนผมจนเกลี้ยงเกลา ลูกศิษย์บางคนหายหน้าไปพักหนึ่งก็กลับมาพร้อมกับที่เส้นผมบนศีรษะเกลี้ยงเกลา พลางบอกว่าต้องทยอยกันโกนผม เนื่องจากคิวช่างตัดผมไม่ค่อยว่าง

นักเรียนพากันตอบว่าที่พากันโกนผม เพื่อเป็นการไว้ทุกข์ให้ในหลวง

ในห้องเรียนพุทธศาสตร์ฯ นักเรียนพากันนั่งพับเพียบกับพื้น สวดมนต์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง นอกจากนี้พวกเขายังใช้เวลาสวดมนต์ในช่วงก่อนนอนถวายแด่พระองค์ท่าน

หากถามว่าในหลวงมีความสำคัญต่อชีวิตของพวกเขาอย่างไร คำตอบนี้คงเป็นเช่นเดียวกับผู้ต้องโทษประหารในเรือนจำทุกคน นั่นคือทรงเป็นผู้พระราชทาน "ชีวิตใหม่" ให้กับพวกเขา ลูกศิษย์ของฉันหลายคนที่รอดพ้นจากความตาย ยังหายใจเป็นผู้เป็นคนมาได้จนถึงวันนี้ก็เพราะพระเมตตาของในหลวงโดยแท้จริง

คนในเรือนจำเรียกชีวิตใหม่นี้ว่า "ชีวิตพระราชทาน"

ภาพจำที่ยังไม่เคยเลือนไปจากใจคือเมื่อแรกที่ก้าวมาทำหน้าที่ "ครู" ของลูกศิษย์ในเรือนจำ เมื่อเกือบ ๖ ปีก่อน นักเรียนของฉันไม่ต่ำกว่า ๖-๗ ชีวิตจากนักเรียนทั้งห้อง ๓๐ คน เดินมาเรียนโดยมีโซ่ตรวนล่ามเท้าอยู่ หลายคนอยู่ในสภาพนี้มาเป็น ๑๐ ปี โดยมีตรวนคู่กายอยู่ ๒๔ ชั่วโมง ไม่เว้นแม้แต่ยามกิน ยามนอน หรืออาบน้ำ เข้าห้องน้ำ

หลังสิ้นคำพิพากษาของศาล เมื่อคดีถึงที่สุด มีกฎของกรมราชทัณฑ์ว่าผู้ต้องขังทุกคนต้องทำทูลเกล้าฯ ถึงในหลวง ในระหว่างที่รอทูลเกล้าฯ ตกลงมา ซึ่งกินเวลาประมาณ ๑-๒ ปี เป็นช่วงเวลาที่ทุกข์ทรมาน วิตกกังวลใจที่สุดว่าจะรอดพ้นจากความตายหรือไม่

เพราะหากทูลเกล้าฯ ตกลงมาให้ประหาร นั่นหมายถึงว่าจะต้องถูกนำตัวไปประหารภายในวันนั้น ไม่มีการรู้ตัวล่วงหน้า

แต่ส่วนใหญ่ทูลเกล้าฯ มักจะตกลงมาว่าให้ลดโทษประหารเหลือโทษตลอดชีวิต

ลูกศิษย์หลายคนที่ได้ถอดโซ่ตรวน รอดพ้นจากความตายบอกเล่าตรงกันว่าช่วงเป็นนักโทษประหาร เหมือนชีวิตอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นกับความตาย ตกเย็นต้องรอลุ้นทุกวันว่าจะรอดตายไปอีกวันไหม (การเบิกตัวไปประหารชีวิตจะมีขึ้นในช่วงราว ๔-๕ โมงเย็น) ไม่เคยหายใจได้โล่งอก ไม่เคยหลับได้สนิท และมักจะฝันร้ายอยู่บ่อยๆ บางคนเครียดมากจนมีอาการรั่ว เสียสติไปชั่วคราว

ชีวิตช่วงนั้นแทบไม่เคยมีความสุข มาปลอดโปร่งใจอย่างแท้จริง

ต่อเมื่อได้มีชีวิตพระราชทานจึงค่อยหายใจได้อย่างโล่งอก ยิ้มได้ และนอนหลับสบาย เพราะรู้ว่ารอดตายแล้ว

หลายคนสำนึกในคุณค่าของการเริ่มต้นชีวิตใหม่อันเป็นชีวิตที่ได้รับพระราชทานมาจากในหลวง และตั้งความปรารถนาไว้ว่าจะเพียรทำในสิ่งที่ดี สมกับพระเมตตาที่ได้ต่อลมหายใจให้กับพวกเขา

พระพุทธนฤอภัยมงคล และพระพุทธอภัยนิรมิต พระพุทธรูปสีขาวสององค์ที่หล่อด้วยเรซิ่น จากฝีมือของนักเรียนจากโครงการ "ปั้นดินให้เป็นบุญ" รุ่นที่ ๑ ที่ตั้งใจจะถวายในหลวง แต่ติดขัดที่กฎระเบียบของสำนักราชเลขาธิการ คณะครูจะได้นำไปถวายวัดเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลต่อไป

แทนความระลึกในพระเมตตาคุณที่พระองค์ได้มอบ "ชีวิตพระราชทาน" เพื่อให้พวกเขาได้มีลมหายใจทำความดีต่อไป

ที่มาจากเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/profile.php?id=100006844953167&fref=nf