posttoday

8 ข้อควรปฏิบัติในการอนุรักษ์ทะเลไทย

24 มีนาคม 2558

เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat

เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat

เพราะทะเลไทยเป็นสมบัติของชาติ คนไทยทุกคนมีส่วนช่วยดูแลรักษา ระหว่างที่เรารอการปฏิรูปอุทยานทางทะเลจากภาครัฐ ผมถือโอกาสเขียน "ข้อปฏิบัติรักทะเลไทย" เพื่อการท่องเที่ยวแบบไม่ทำร้ายธรรมชาติครับ ‪#‎ข้อปฏิบัตินี้มีคนอ่านนับหมื่น‬ ‪#‎แต่จะมีคนอ่านนับแสนหากเพื่อนธรณ์ช่วยกันแชร์‬

ข้อแรก ให้อาหารสัตว์ในแนวปะการังคือการฆ่าสัตว์

เหตุ – ปลาที่กินอาหารของเรามีเพียงบางชนิด คิดเป็นไม่ถึงร้อยละ 10 ของปลาทั้งหมดในแนวปะการัง พวกที่มากินอาหารจากเรา เป็นกลุ่มปลาก้าวร้าว จะยึดพื้นที่และไล่ปลาอื่นออกไป

ปลาอยู่ในทะเลจะมีเขตของเขา หากโดนปลาก้าวร้าวไล่ออก เท่ากับไปตาย ปลาที่เคยช่วยกินสาหร่ายหรือช่วยควบคุมสมดุลระบบนิเวศจะลดน้อยลง ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในแนวปะการัง โลกใต้น้ำอันสวยงามก็หมดไป เหลือแต่ปลาจำนวนมากแต่มีน้อยชนิดมาคอยรุมล้อมรอบเรือ คล้ายแมวน้อยมาเคล้าคลอคอยขอของกิน

เผอิญปลาไม่ใช่แมว ปลาที่อาจดูน่ารัก คือปลาที่จะไปทำร้ายปลาอื่น การให้อาหารแมวกับให้อาหารปลาในแนวปะการัง จึงแตกต่างกันฉะนี้แล

นอกจากปลา สัตว์น้ำอื่นที่มากิน เช่น เต่าทะเล จะเกิดความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม อาหารที่มนุษย์ให้ไม่ใช่อาหารธรรมชาติ สัตว์ไม่ตายเพราะอดอาหาร แต่สัตว์อาจตายเพราะเราให้อาหาร นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่พิสูจน์แล้ว และเป็นกฎระเบียบของทะเลในเขตอนุรักษ์ทั่วโลก

ควรทำ – ไม่สนับสนุนทัวร์ที่ให้อาหารสัตว์น้ำเด็ดขาด บอกกล่าวให้คุณไกด์ฟังว่าอย่าทำเลยนะ หากไม่เป็นผล รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากมีทัวร์ใดให้อาหารปลาในอุทยาน แจ้งเจ้าหน้าที่ โพสต์ในสื่อโซเชียล ฯลฯ

อุทยานแห่งชาติทางทะเลมีประกาศห้ามให้อาหารปลาในเขตอุทยาน เช่น หมู่เกาะสุรินทร์ สิมิลัน พีพี ฯลฯ ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในเรื่องนี้ด้วยครับ

ข้อสอง จับสัตว์เท่ากับทำร้ายสัตว์

เหตุ – สัตว์ทะเลทุกชนิดบอบบาง ไม่ได้วิวัฒนาการมาให้มนุษย์จับเล่น สิ่งที่เราคิดว่าไม่เห็นมีอะไร อาจหมายถึงเราทำร้ายสัตว์ให้บาดเจ็บ และตามวิถีธรรมชาติ สัตว์ที่บาดเจ็บจะรอดยาก

ดาวทะเลที่เกาะกับหิน โดนดึงขึ้นมา เท้าดูดของดาวทะเลจะฉีกขาดจนบาดเจ็บ ปลิงทะเลที่กำลังกินอาหาร ถูกจับแล้วจะเลิกพฤติกรรมหากิน แต่จะกลัวจนอยู่นิ่ง กลายเป็นกลิ้งไปมาล่อเป้าศัตรู

ปลาปักเป้าที่ถูกแหย่จนพอง ต้องใช้พลังงานมากมายในการทำเช่นนั้น กว่าจะกลับเป็นปรกติใช้เวลานาน หากเราไม่ชอบให้ใครมาตุ้ยท้องเล่นให้เรากลัวเราโกรธ ปักเป้าก็ไม่ชอบเช่นกันครับ

สัตว์ทุกชนิดมีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกและพฤติกรรม การแตะต้องหรือจับสัตว์คือการรังแกและทำร้ายสัตว์โดยตรง เผลอๆ โดนตัวมีพิษเข้า แล้วเรื่องมันจะยาวครับ

ควรทำ – คิดว่าทะเลคือบ้านของสรรพสัตว์ เราเป็นแขก เราเข้าไปเยี่ยมบ้านคนอื่น เราย่อมไม่วิ่งไล่จับไล่ทึ้งเมียหรือลูกสาวเจ้าของบ้าน

ขอแค่ปฏิบัติตัวอย่างสุภาพ บอกกับไกด์หรือใครก็ได้ที่คิดจับสัตว์มาให้เราดู บอกว่าไม่ต้องหรอกค่ะพี่ หนูยินดีเห็นสัตว์ที่มีความสุขแบบไกลๆ มากกว่าเห็นสัตว์ที่มีความทุกข์แบบใกล้ๆ หนูมาเที่ยว หนูไม่ได้มารังแกสัตว์

ข้อสาม ทิ้งสมอคือวิบัติ ปะการังพินาศสิ้น

เหตุ – เมื่อทุ่นไม่พอ หรือทุ่นอยู่นอกแนวปะการัง เรือบางลำจะทิ้งสมอแบบเอาง่ายเข้าว่า สมอที่ตกลงไปไม่ทำลายเพียงจุดเดียว แต่เรือโดนคลื่นโดนกระแสน้ำ จะลากสมอทำลายแนวปะการังพังเป็นแถบ

เรือบางลำยังพยายามส่งลูกทัวร์ขึ้นฝั่งโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบ ใบพัดเรือที่ปั่นทรายฟุ้งขึ้นมาคือความตายของปะการังน้ำตื้น หรือบางครั้ง เรือใหญ่อาจไปครูดหรือกระแทกปะการัง แน่นอนว่าหักพังทลาย

ควรทำ – ยอมรับว่าบางทีเราอาจต้องว่ายน้ำไกลนิด เพื่อไม่ให้เรือทิ้งสมอในแนว บางทีอาจต้องรอหน่อยเพื่อเข้าฝั่งให้ถูกช่องทาง มิใช่ดาหน้าพุ่งผ่านแนวปะการัง ทำทรายฟุ้งจนตายหมดทั้งแถบ

ห้ามไกด์ทันทีที่จะทิ้งสมอลงปะการัง ไม่มีข้ออ้างว่าปะการังตรงนี้ตายหมดแล้ว เพราะนั่นเป็นเพียงคำแก้ตัว แจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานทันทีที่มีการกระทำผิด หรือถ่ายภาพมาบอกกันหากเจอพฤติกรรมเช่นนั้นครับ

ข้อสี่ ทิ้งขยะคือฆ่าสัตว์

เหตุ – สัตว์ทะเลหายาก เช่น เต่า โลมา ในประเทศไทย บาดเจ็บล้มตายปีละหลายร้อยตัว เมื่อผ่าศพชันสูตรพบว่าขยะทะเลเป็นปัญหาแทบทั้งนั้น ทั้งขยะที่อุดตันในทางเดินอาหาร ขยะที่ติดตามตัวสัตว์จนว่ายน้ำไม่ไหว หากินไม่สะดวก เป็นบาดแผลเหวอะหวะ สร้างความทุกข์แสนสาหัสก่อนตาย

การทิ้งขยะหรือถุงพลาสติกลงบนชายฝั่งหรือในทะเล คือการฆ่าสัตว์โดยตรง แม้แต่จะทิ้งใส่ถังบนเกาะบางแห่งที่อยู่ห่างไกล ระบบกำจัดขยะอาจไม่ดีมากมายจนสามารถกำจัดได้ทั้งหมด

ควรทำ – นำอะไรไป นำสิ่งนั้นกลับมา ไม่ทิ้งอะไรไว้ในธรรมชาติ ช่วยกันเก็บขยะที่อันตราย เช่น เศษแก้ว ฯลฯ ไปทิ้งในจุดที่เหมาะสม เห็นขยะเกลื่อนหาด ถ่ายภาพแล้วแชร์ครับ จะได้เกิดกระแสทำให้เปลี่ยนแปลงระบบเก็บขยะที่นั่นที่นี่

ข้อห้า คนอื่นทำได้ เราไม่ต้องทำตาม

เหตุ – ตกปลาในเขตอนุรักษ์ ทิ้งขยะลงทะเล และการทำร้ายธรรมชาติแบบต่างๆ มักมีให้เห็นเป็นประจำ หลายคนทำตามเพราะคิดว่าคนอื่นทำได้ แล้วทำไมชั้นทำไม่ได้ล่ะ ?

คนเรามีการสั่งสอนแตกต่างกัน มีสำนึกต่างกัน เราเป็นคนดีและมีสำนึกพอที่จะไม่ต้องทำตามคนไร้สำนึกเพราะปราศจากการอบรมดูแลที่ถูกต้อง

ควรทำ – ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อุทยานอย่างเคร่งครัด ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ แจ้งเตือนทุกอย่างที่ดูไม่ดี โพสต์ประจานคนไร้ยางอายให้รู้ว่าบ้านนี้เมืองนี้ยังมีคนรักทะเลอยู่โว้ย !!!

ข้อหก เลือกทัวร์ให้ถูกต้อง ป้องกันปัญหาล่วงหน้า ไม่สนับสนุนคนทำผิด

เหตุ – ช่วงหยุดยาวเมษายน มีบางทัวร์จัดแบบไม่จองที่พักหรืออาหารล่วงหน้า แต่มั่วเอาว่าจองไว้แล้ว พอไปถึงเกาะก็มีปัญหา เกิดความไม่สะดวกสบาย จากนั้นจะโทษเจ้าหน้าที่ เราไม่รู้ก็พลอยด่าไปด้วยทั้งที่ทัวร์ไม่ได้จองมาก่อน

นอกจากนี้ ปริมาณคนจำนวนมาก ทำให้การควบคุมเรือเป็นอย่างยากลำบาก บางทีเกิดความเสียหายต่อแนวปะการัง

ควรทำ - หากไปกับทัวร์ ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าทัวร์ของเราได้รับใบอนุญาตในการท่องเที่ยวอุทยาน ได้จองห้องพักจากอุทยานในช่วงที่เราไป หรือทัวร์นี้เคยมีปัญหาเกี่ยวกับทะเลบ้างไหม หากมีก็ง่ายๆ อย่าสนับสนุนครับ

ข้อเจ็ด เลือกกินเลือกซื้อ

เหตุ - สัตว์ทะเลบางชนิดไม่ควรกิน เพราะเขาใกล้สูญพันธุ์แล้ว เช่น หูฉลาม (ครีบฉลาม) ปลานกแก้ว (ช่วยควบคุมสาหร่ายในแนวปะการัง) ฯลฯ

การซื้อปะการัง เปลือกหอยมือเสือ กัลปังหา มาตกแต่งบ้านหรือเป็นเครื่องประดับ คือการทำร้ายทะเลอย่างแท้จริง อีกทั้งยังผิดกฎหมายประมง ห้ามจำหน่ายห้ามครอบครองซากสัตว์เหล่านี้

ควรทำ - สงสารสัตว์บ้างเถิด หูฉลามจะอร่อยจะดูเริ่ดแค่ไหน หากมีที่มาจากความทรมานจนตายของฉลาม มันก็ไม่คุ้มกันหรอกครับ ภาพฉลามวาฬที่โดนตัดครีบไปที่กระบี่ เพิ่งถูกกลุ่มอนุรักษ์โพสต์แพร่กระจายไปทั่วโลก เป็นความเสื่อมเสียที่ส่งผลถึงภาพลักษณ์ของเมืองไทย

ซากปะการัไม่ได้ทำให้บ้านดูดีเป็นบ้านอิงธรรมชาติ เพราะการทำลายบ้านปลามาเป็นบ้านเรา มันคงไม่อิงธรรมชาติใช่ไหมครับ

ข้อแปด อย่าหมดหวัง

ไม่มีครั้งใดที่ทะเลไทยถูกทำร้ายมากมายถึงเพียงนี้ แต่เช่นเดียวกัน ไม่มีครั้งใดที่คนรักทะเลไทยออกมาต่อสู้เยี่ยงนี้

สำหรับการต่อสู้เพื่อท้องทะเล ไม่มีสามคำ “สายเกินไป” แต่มีสามคำ “สู้ยิบตา”

ผมเคยเห็นทะเลไทยมากว่า 40 ปี เคยเห็นสถานที่สวยดั่งสวรรค์ กลับกลายเป็นเลวร้ายดุจนรก

เคยเห็นฉลามโดนตัดครีบดิ้นรนก่อนตายคาพื้นทะเล เคยเหตุปลานับร้อยนอนบาดเจ็บสาหัสเพราะฤทธิ์ระเบิดปลา หากปลาร้องได้ วันนั้นคงเป็นวันที่ใต้ทะเลมีแต่เสียงครวญคราง

เคยเห็นแนวปะการังสูญสลายไปในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปี เคยเห็นแนวหญ้าทะเลหายไปกลายเป็นท่าเรือท่องเที่ยว

ผมหมดหวังไม่ได้ เพราะนี่คือทะเลของผม ของบ้านเมืองผม คือทะเลไทย ต่อให้เหลือปลาอยู่ตัวเดียวในทะเลแห่งนี้ ผมก็ไม่มีทางหมดหวัง

ผมเคยเขียนไว้นานแล้วว่า “การต่อสู้เพื่อพิทักษ์ทะเลไทยกำลังจะสิ้นสุด โดยคนไทยทุกคนเป็นผู้แพ้ ความหวังครั้งสุดท้ายของเรา คือสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นมา” (อสท. 2538)

ยี่สิบปีผ่านไป แม้กล้ำกลืนฝืนทนเพียงใด ผมยังเชื่อในปาฏิหาริย์นั้น

ผมไม่ดราม่า ไม่มโนไปเอง เพราะปาฏิหาริย์เคยเกิดให้ผมเห็นครั้งแล้วครั้งเล่า เช่น กรณีเลิกขายปลานกแก้ว กรณีจดหมายเปิดผนึก กรณีจับสัตว์ทะเลมาโชว์นักท่องเที่ยว ฯลฯ

ปาฏิหาริย์ดังกล่าวเกิดจากความรักทะเลของคนไทย มีเพียงสิ่งนี้สิ่งเดียวที่จะทำให้ทะเลเราอยู่รอดได้ ตกเป็นสมบัติของลูกของหลานเราได้

ขอเพียงคุณเชื่อมั่นในปาฏิหาริย์ และช่วยกันสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้น

เพราะคุณคือปาฏิหาริย์...

สู้ยิบตาครับ !!!

ที่มา https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1077002212314981&set=a.109442282404317.18085.100000156385897&type=1&theater