posttoday

เกลือหิมะเทียมทำดินโป่ง

03 มกราคม 2558

เฟซบุ๊ก Pat Hemasuk

เฟซบุ๊ก Pat Hemasuk

คาดไม่ถึงว่าเสี่ยตันจะทำให้ผมเขียนอะไรได้ยาวขนาดนี้

ผมอ่านข่าวจากสื่อหลายๆฉบับที่ได้ก็อบปี้หน้า FB ของเสี่ยตันที่พูดเรื่องเกลือที่เอามาโรยจัดงานที่เชียงใหม่ถึง 40ตัน ซึ่งได้ประกาศเลิกก่อนกำหนดในวันที่ 3 โดยกำหนดการเดิมคือวันที่ 4 มกราคม และได้ให้ข้อมูลว่า

"....แต่ผมก็เคารพในความเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อเสนอของบางกลุ่มที่ขอให้ยกเลิกในงานนี้ ผมก็นำมาคิดอย่างจริงจังในเมื่อผมจัดงานนี้ด้วยเจตนารมณ์ที่ดีและไม่ได้เก็บค่าบัตรผ่านประตู ค่าเช่าพื้นที่ และค่าสปอนเซอร์ จะเลิกก็ไม่เสียหาย..."

ส่วนข่าวใหม่ที่น่าตกใจและได้ออกมาพร้อมกันคือ

"ได้พูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ซึ่งได้ขอเกลือทั้งหมดไว้เพื่อนำไปทำเป็น "ดินโป่ง" ให้สัตว์ป่าในพื้นที่เชียงใหม่ ตนจึงได้ขอส่งมอบเกลือนี้เพื่อให้ทางจังหวัดนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป"

สิ่งที่ผมคิดแปลไทยเป็นไทยจากคำพูดของเสี่ยตันและข่าวทุกสำนักที่ลงข่าวตรงกันว่า

****** การที่เปิดงานมาตั้งแต่ก่อนคริสมาสตั้งนานจนถึงวันที่ประกาศปิดมันก็สิบกว่าวัน เสี่ยตันใจดีปิดก่อนจากกำหนดวันเดียว ถือว่าเป็นความดีต้องออกข่าวเลยเชียวหรือ คนที่ไปงานในช่วงหลังก็บอกว่าคนย่ำจนเกลือดำสกปรกไม่สวยไปหมดแล้ว บางจุดอยู่ในสภาพสกปรกดำไปหมดจากการเหยียบย่ำมาครึ่งเดือน ดูแล้วออกแนวดูน่าเกลียดเกินกว่าจะสวยน่าถ่ายรูปเล่นเสียด้วยซ้ำ การที่ออกข่าวยกเลิกงานที่จัดว่าสิบกว่าวันก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันในมุมมองเสี่ยตันถือว่าได้หน้าได้เครดิตไปอีกด้วย

****** ก่อนหน้านั้นเสี่ยตันรับปากบอกว่าเกลือทั้งหมดหลังจบงานจะจัดเก็บอย่างดี ไม่ให้เป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมของจังหวัดเชียงใหม่ คือทุกคนก็คิดว่าคงจะส่งไปทำลายแบบที่ไม่มีผลต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งเกลือจำนวนนี้ถ้าเอาไปให้บริษัทรับเก็บกำจัดสารเคมีอุตสาหกรรมมันเป็นเงินมหาศาลหลายล้านบาท หรือแค่มีความคิดจะเอาไปทิ้งทะเลง่ายๆ ค่าขนส่งจากเชียงใหม่ไปทิ้งทะเลก็เป็นล้านแล้ว แต่เสี่ยตันออกข่าวว่าจะเอาไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยบอกว่าผู้ว่าราชการขอเกลือไปทำดินโป่ง มันตัดตอนความรับผิดชอบของเสี่ยตันได้ง่ายดังพลิกฝ่ามือแถมได้หน้าอีกด้วย

****** เสี่ยตันบอกว่าผู้ว่าราชการจังหวัดขอเกลือไปทำดินโป่งเพื่อให้สัตว์ป่ากิน ผู้ว่าเชียงใหม่ไปถาม อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช แล้วหรือยังว่าเกลือจำนวนมหาศาลขนาดนี้ท่านอยากได้หรือไม่ คิดจะเอาเกลือ 40ตันไปกองให้ในเขตวนอุทยานนี่มันไม่ต่างกับเอาระเบิดไปทิ้งในโรงเรียนเลยนะครับฝนตกลงมาดินเค็มต้นไม้ตายฉิบหายกันทั้งป่า สัตว์ไม่ได้ต้องการเกลือมหาศาลแบบนั้น และสัตว์ไม่ใช่เกลือบริสุทธิแบบนี้เสียด้วย ไปเอาให้กินก็ตายผ่อนส่งไตพังไตวายลูกเดียว

****** ผมเองใช้รถ SUV ตัวจริงของจริง ที่ไม่ใช่รถปิคอัพขับเคลื่อสี่ล้อแบบทั่วไป คือไม่ได้คุยว่าผมรวยหรอกนะครับ ที่ใช้รถราคาแพงกว่าปิคอัพขับเคลื่อนสี่ล้อสี่ห้าเท่า แต่ผมชอบเข้าป่าตั้งแต่สมัยเกือบยี่สิบปีก่อนที่ยังไม่มีแก็งค์รถปิกอัพโฟวีลเกรียนๆ เข้าไปทำลายป่าและธรรมชาติแบบทุกวันนี้ แต่ผมจะขับรถเข้าไปทำดินโป่งให้สัตว์ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีใครเขาทำกัน ส่วนผสมการทำดินโป่งนั้นกว่าครึ่งหนึ่งคือเกลือก้อนที่มีแร่สารอาหารสำคัญของสัตว์แบบที่ซื้อให้วัวขุนควายขุนกินกันนั่งแหละครับ ขายเป็นก้อนละเกือบร้อยบาท เพราะมันเป็นเกลือที่มีสารอาหารจำพวกฟอสเฟตและวิตามินต่างๆทดแทนดินโป่งตามธรรมชาติ และอีกอย่างคือ แคลเซียมฟอสเฟสให้กระดูกแข็งแรงกระสอบละกว่าครึ่งพันบาท แล้วโรยเกลือทะเลเม็ดที่มีแม็กนีเซี่ยมซัลเฟตและไอโอดีนตามธรรมชาติลงไปผสม "หนึ่งในสิบส่วน" เท่านั้น ผมย้ำอีกทีว่าเป็นเกลือทะเลเม็ด "หนึ่งในสิบส่วนเท่านั้น" ทำดินโป่งให้สัตว์ครั้งหนึ่งใช้เกลือไม่ถึงสิบกิโลเท่านั้นเองครับ มันไปหนักที่แร่ธาตและวิตามินตัวสารอาหารอื่นไม่ใช่กลือ

ผมอยากจะรู้ว่าเกลือสี่สิบตันมันใช้ทำดินโป่งทุกป่าในประเทศไทยอีกกี่ชาติถึงจะหมด แถมยังเอาไปทำดินโป่งจริงๆ ก็ไม่ได้เสียอีก เพราะเกลือที่เหมาะสมให้สัตว์กินคือเกลือทะเลที่มีแร่ธาตุอื่นด้วย ไม่ใช่เกลืออุตสาหกรรมบริสุทธิแบบนี้

****** ตามกฎหมายแล้วงานนี้แม้เสี่ยตันจะบอกว่าทำไหนพื้นที่ของตัวเองก็ตาม การที่ใช้เกลือที่มากมายขนาดนี้ กฎหมายต้องให้ทำ EHIA หรือไม่ เกลือจำนวนมหาศาลขนาดนี้มันเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็น เอเลี่ยน ที่ไม่มีในธรรมชาติของเชียงใหม่เลย ถึงแม้จะเอาไปกองชายหาดที่มีน้ำเค็มอยู่แล้ว ปู หอย แถวนั้นยังตายเลยถ้าเจอความเค็มมากมายมหาศาลขนาดนี้ ดีว่าเชียงใหม่ช่วงนี้ฝนไม่ตก ถ้ามีฝนสักหน่อยผมคิดว่าเกลือมหาศาลขนาดหลายสิบตันมันละลายลงท่อระบายน้ำ มันจะกระเทือนสภาพแวดล้อมถึงแม่น้ำปิงตลอดเส้นเลยก็ว่าได้

ผมอ่านแล้วปรี๊ดแตก.... จะมาไม้ไหน จะทำอะไรของเขาอีกล่ะนี่ นักธุรกิจนี่เดาใจลำบากเหลือเกินโดยเฉพาะเสี่ยตัน

ที่มา : www.facebook.com/von.richthofen.7