ในหลวง ราชินี ทรงนำจุดเทียนชัยถวายราชสดุดี รำลึกพระมหากรุณาธิคุณร.9
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นประธานพิธีจุดเทียนมหามงคล ถวายราชสดุดี รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ รัชกาลที่9
เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.63 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จ ฯ ไปทรงจุดเทียนมหามงคล เพื่อถวายราชสดุดีและน้อมรำลึก ในพระหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิ เบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้าย วันพระบรมราชสมภพ วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการ และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณีเข้าร่วมด้วย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัส เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ความว่า ข้าพเจ้าและพระราชินีมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมในพิธีจุดเทียนมหามงคล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ทั้งได้มาอยู่ท่ามกลางประชาชนทุกหมู่เหล่า ในวันนี้
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงพระราชอุตสาหะปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งรัชสมัย ดังเป็นที่ประจักษ์ว่าได้ทรงวางรากฐานการพัฒนาประเทศ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดำเนินก้าวหน้าไปอย่างมั่นคงยั่งยืน โดยการส่งเสริมพัฒนาการศึกษา การแพทย์ และการสาธารณสุข ตลอดจนการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งได้พระราชทานหลักการดำเนินชีวิตและประพฤติตนปฏิบัติงานไว้ คือเศรษฐกิจพอเพียง ยึดมั่นในทางสายกลาง กระทำการทุกอย่างให้พอเหมาะพอดี โดยอาศัยความมีเหตุผลเป็นเครื่องพิจารณา อาศัยวิชาความรู้เป็นเครื่องมือปฏิบัติ และอาศัยคุณธรรมความสุจริตเป็นเครื่องกำกับประคับประคอง ทำให้ทุกคนไม่ว่าจะมีฐานะความเป็นอยู่อย่างไร
ประกอบอาชีพการงานใดย่อมมีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง สามารถพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้น เจริญขึ้น และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของโลกได้ ประเทศไทยจึงดำรงอยู่ด้วยความเข้มแข็ง ให้ชาวไทย ตลอดจนผู้มี่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสัมภารพำนักอาศัย ได้มีชาติบ้านเมืองเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและเป็นจุดหมายร่วมกัน ในอันที่จะรักษาสิ่งที่ดีงามของชาติ พร้อมทั้งปฏิบัติสร้างสรรค์ความดีความเจริญ เพื่อความร่มเย็นเป็นปรกติสุข ความมั่นคงเป็นปึกแผ่น และความเจริญยั่งยืนของประเทศ ประชาชนชาวไทยจึงเคารพเทิดทูนพระองค์ในฐานะพ่อแห่งแผ่นดิน และถือเอาวันที่ 5 ธันวาคมวันคล้ายวันพระราชสมภพเป็นวันพ่อแห่งชาติ และวันชาติไทย ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้เสมอมา
ขอพระบารมีของพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จงคุ้มครองรักษาประเทศชาติและประชาชนไทยให้มีความวัฒนาผาสุกตลอดไป