ถนนพระราม1คนแน่นรอรับเสด็จ
พสกนิกรแน่นถนนพระราม1 เฝ้ารับเสด็จขบวนปั่นเพื่อพ่อ
พสกนิกรแน่นถนนพระราม1 เฝ้ารับเสด็จขบวนปั่นเพื่อพ่อ
สองข้างทางตลอดถนนพระราม 1 เนืองแน่นไปด้วยพสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จขบวนจักรยานปั่นเพื่อพ่อ โดยประชาชนทยอยกันมาจับจ้องพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน
เมื่อเวลา 15.58 น.ขบวนจักรยานนำโดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จผ่านแยกปทุมวัน มุ่งหน้าสู่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามด้วยขบวนของพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ท่ามกลางพสกนิกรที่พร้อมใจกันสวมเสื้อปั่นเพื่อพ่อ "Bike for Dad" มารอรับเสด็จ ตลอดสองข้างทาง พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง
ขณะที่ประชาชนที่มารอเฝ้ารับเสด็จต่างปลื้มปิติ ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์
ประเทือง สุขไสว คุณป้าวัย 67 ปี บอกว่า ตั้งใจมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้ตอนที่มีการจัดกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ ตนก็มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งด้วย ประเทืองบอกเล่าถึงความรู้สึกที่ได้มีโอกาสรับเสด็จทั้งสามพระองค์ว่า ปลื้มปิติมาก
"ครั้งที่แล้วในกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ เราได้รับเสด็จสองพระองค์ แต่ครั้งนี้ได้รับเสด็จถึง 3 พระองค์เลย ครั้งนี้ก็มีพสกนิกรมาเฝ้ารับเสด็จเยอะ เห็นแล้วก็ตื้นตันใจ ดีใจแทนพระองค์ท่าน ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่รักพระองค์ท่าน อยากเห็นพระองค์ท่านมีพระพลานามัยที่แข็งแรง มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน"
นฤมล ทองช่าง ข้าราชการวัย 38 ปี บอกเล่าถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมเฝ้ารับเสด็จว่า ตอนที่เห็นขบวนจักรยานของทั้งสามพระองค์แล้วขนลุกมาก ตื้นตันใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ดีใจที่ได้มามีส่วนร่วมในกิจกรรมใหญ่แบบนี้
"ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ไม่รู้ว่าในชีวิตนี้จะมีอีกมั้ย ตอนที่ท่านเสด็จผ่าน เราตะโกน 'ทรงพระเจริญ' ดังมาก"
ถามถึงความประทับใจที่มีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นฤมล ถึงกับเล่าด้วยน้ำตาคลอ ว่า รักพระองค์ท่าน จนไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นความรู้สึกอย่างไร
"จำได้ว่าสมัยเด็ก คุณพ่อเคยบอกว่า เค้ารักในหลวงจนถึงขนาดยอมตายแทนไม่ได้ ครอบครัวของเราถูกปลูกฝังมาแบบนี้ จนตอนที่เรามารับราชการ พ่อก็บอกว่าครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวยพอจะไปจุนเจือช่วยเหลือคนอื่น แต่แค่เราทำงานอย่างซื่อสัตย์ ก็ถือว่าได้ทำงานตอบแทนพระองค์ท่านแล้ว"
ด้าน กรรทิมา กริบกุล แม่ค้าวัย 52 ปี บอกว่า ตั้งใจมากที่จะมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เสียดายที่ไม่ได้ร่วมขบวนปั่นจักรยาน เพราะขาเจ็บ
"วันนี้ปลื้มมาก ได้เฝ้ารับเสด็จทั้งสามพระองค์ เห็นแล้วน้ำตาแห่งความสุขก็ไหลออกมาเอง เราอยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆ จะได้เห็นว่าคนไทยเข้มแข็งและ รักกันดีขนาดไหน เราอยากให้เมืองไทยมีภาพแบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยบ่อยๆ"
กรรทิมา บอกด้วยว่า อยากให้ในหลวงมีพระชมมายุยืนนาน ถ้ามีอะไรที่ประชาชนพอจะทำได้เพื่อให้พระองค์ท่านมีพระชนมายุยืนนาน ก็พร้อมจะทำ
ปิดท้ายด้วย วิรัช เนตรสิริ วัย 77 ปี และ ศิริพร เนตรสิริ วัย 67 ปี บอกว่า ดีใจที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมปั่นเพื่อ ดีใจที่เห็นมีพสกนิกรมาร่วมเฝ้ารับเสด็จมากมาย
"ที่มาวันนี้เพราะรักในหลวง อยากให้พระองค์หายจากอาการพระประชวรไวๆ อยากให้ในหลวงทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยไปยาวนาน"
สองข้างทางตลอดถนนพระราม 1 เนืองแน่นไปด้วยพสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จขบวนจักรยานปั่นเพื่อพ่อ โดยประชาชนทยอยกันมาจับจ้องพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน
เมื่อเวลา 15.58 น.ขบวนจักรยานนำโดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จผ่านแยกปทุมวัน มุ่งหน้าสู่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามด้วยขบวนของพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ท่ามกลางพสกนิกรที่พร้อมใจกันสวมเสื้อปั่นเพื่อพ่อ "Bike for Dad" มารอรับเสด็จ ตลอดสองข้างทาง พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง
ขณะที่ประชาชนที่มารอเฝ้ารับเสด็จต่างปลื้มปิติ ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์
ประเทือง สุขไสว คุณป้าวัย 67 ปี บอกว่า ตั้งใจมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้ตอนที่มีการจัดกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ ตนก็มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งด้วย ประเทืองบอกเล่าถึงความรู้สึกที่ได้มีโอกาสรับเสด็จทั้งสามพระองค์ว่า ปลื้มปิติมาก
"ครั้งที่แล้วในกิจกรรมปั่นเพื่อแม่ เราได้รับเสด็จสองพระองค์ แต่ครั้งนี้ได้รับเสด็จถึง 3 พระองค์เลย ครั้งนี้ก็มีพสกนิกรมาเฝ้ารับเสด็จเยอะ เห็นแล้วก็ตื้นตันใจ ดีใจแทนพระองค์ท่าน ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่รักพระองค์ท่าน อยากเห็นพระองค์ท่านมีพระพลานามัยที่แข็งแรง มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน"
นฤมล ทองช่าง ข้าราชการวัย 38 ปี บอกเล่าถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมเฝ้ารับเสด็จว่า ตอนที่เห็นขบวนจักรยานของทั้งสามพระองค์แล้วขนลุกมาก ตื้นตันใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ดีใจที่ได้มามีส่วนร่วมในกิจกรรมใหญ่แบบนี้
"ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ไม่รู้ว่าในชีวิตนี้จะมีอีกมั้ย ตอนที่ท่านเสด็จผ่าน เราตะโกน 'ทรงพระเจริญ' ดังมาก"
ถามถึงความประทับใจที่มีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นฤมล ถึงกับเล่าด้วยน้ำตาคลอ ว่า รักพระองค์ท่าน จนไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นความรู้สึกอย่างไร
"จำได้ว่าสมัยเด็ก คุณพ่อเคยบอกว่า เค้ารักในหลวงจนถึงขนาดยอมตายแทนไม่ได้ ครอบครัวของเราถูกปลูกฝังมาแบบนี้ จนตอนที่เรามารับราชการ พ่อก็บอกว่าครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวยพอจะไปจุนเจือช่วยเหลือคนอื่น แต่แค่เราทำงานอย่างซื่อสัตย์ ก็ถือว่าได้ทำงานตอบแทนพระองค์ท่านแล้ว"
ด้าน กรรทิมา กริบกุล แม่ค้าวัย 52 ปี บอกว่า ตั้งใจมากที่จะมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เสียดายที่ไม่ได้ร่วมขบวนปั่นจักรยาน เพราะขาเจ็บ
"วันนี้ปลื้มมาก ได้เฝ้ารับเสด็จทั้งสามพระองค์ เห็นแล้วน้ำตาแห่งความสุขก็ไหลออกมาเอง เราอยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้บ่อยๆ จะได้เห็นว่าคนไทยเข้มแข็งและ รักกันดีขนาดไหน เราอยากให้เมืองไทยมีภาพแบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยบ่อยๆ"
กรรทิมา บอกด้วยว่า อยากให้ในหลวงมีพระชมมายุยืนนาน ถ้ามีอะไรที่ประชาชนพอจะทำได้เพื่อให้พระองค์ท่านมีพระชนมายุยืนนาน ก็พร้อมจะทำ
ปิดท้ายด้วย วิรัช เนตรสิริ วัย 77 ปี และ ศิริพร เนตรสิริ วัย 67 ปี บอกว่า ดีใจที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมปั่นเพื่อ ดีใจที่เห็นมีพสกนิกรมาร่วมเฝ้ารับเสด็จมากมาย
"ที่มาวันนี้เพราะรักในหลวง อยากให้พระองค์หายจากอาการพระประชวรไวๆ อยากให้ในหลวงทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยไปยาวนาน"