พสกนิกรปีติชื่นชมพระบารมีในหลวงวันฉัตรมงคล

ประชาชนเฝ้าฯรับเสด็จในหลวงวันฉัตรมงคล ปลื้มปิติได้เห็นพระพักตร์แจ่มใส

เมื่อวันที่ 5 พ.ค.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินลงจากอาคารที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ ไปในการพระราชพิธีฉัตรมงคล โดยเสด็จฯ ออกจากศิริราช เวลา 10.28 น. และเสด็จฯ ถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง เวลา 10.42 น.

ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงเช้า 5 พ.ค.58 มีประชาชนได้มาปูเสื่อจับจองพื้นที่รอเฝ้ารับเสด็จตลอดสองฟากฝั่งถนนภายในโรงพยาบาลศิริราช ทำให้บรรยากาศคึกคักไปด้วยประชาชนผู้จงรักภักดี

นางนกยูง ภิรมย์แก้ว อายุ 75 ปี ชาวนครปฐม ซึ่งเดินทางมาเฝ้าฯรับเสด็จ ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ของวันที่ 4 พ.ค.58 เพื่อหวังจะได้เห็นพระพักตร์ในหลวงชัดๆ กล่าวว่า วันนี้เห็นพระพักตร์พระองค์แจ่มใส ก็รู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างที่สุดแล้ว แม้จะมีข่าวว่าพระองค์จะเสด็จฯ ไปที่ไหนก็จะมารอเฝ้าพระองค์แบบนี้ไม่มีเหน็ดเหนื่อย หลายครั้งที่มารอเฝ้ารับเสด็จฯ แล้วพลาดไม่ได้เห็นพระพักตร์พระองค์ แต่วันนี้ได้เห็นแล้ว รู้สึกปลาบปลื้มใจมาก

ด้านนายศักดา สัจจะมิตร อายุ 66 ปี อาชีพค้าขาย เปิดเผยว่า มาเข้าเฝ้าหลายครั้ง และมาเฝ้าเป็นประจำทุกครั้ง ถ้ารู้ว่าท่านจะเสด็จฯ ออกก็ต้องมาเฝ้าเพื่อให้เห็นพระพักตร์ นอกจากนี้เขายังมาลงนามถวายพระพรในหลวงทุกวัน ยกเว้นตอนไปต่างประเทศ

นายศักดากล่าวอีกว่า ทำไมจึงต้องมาทุกวัน เพราะมาด้วยใจรักพระองค์มากๆ และเฝ้ารับเสด็จฯ ตั้งแต่อายุ 10 ขวบจนถึงทุกวันนี้ พระองค์เป็นในหลวงในดวงใจ ได้เห็นพระพักตร์แจ่มใสแล้วรู้สึกดีใจมาก รู้สึกชื่นชมในพระบารมีของพระองค์ คิดว่าเรามีบุญ เห็นพระองค์แล้วมีความสุข คิดว่าตนเองโชคดีที่ได้อยู่บนแผ่นดินที่มีพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก ปัจจุบันตนเองพยายามดำเนินชีวิตตามรอยพ่อสอน คือ ให้คิดถึงประโยชน์ของผู้อื่นมากกว่าตนเอง ด้วยการบริจาคโลหิตถึง 119 ครั้งแล้ว และยังทำสาธารณกุศลอีกมากมาย

"วันนี้ วันที่ 5 พ.ค. เป็นวันที่พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ด้วยทศพิธราชธรรมมาโดยตลอด พระองค์ทรงดูแลทุกศาสนาเป็นอย่างดี และเท่าเทียมกันหมด พระองค์ทรงพระทัยกว้างขวาง ให้อิสรภาพกับทุกศาสนา ซึ่งเป็นความประทับใจส่วนตัวของผม"นายศักดากล่าว