posttoday

ในหลวง-พระราชินีทรงแข็งแรงเสด็จประทับหัวหิน

01 สิงหาคม 2556

แพทย์แถลงในหลวง ราชินี ทรงแข็งแรง เสด็จประทับหัวหิน จัดทีมถวายการดูแลพร้อมแล้ เผยทรงห่วงใยประชาชนอยู่ตลอด

แพทย์แถลงในหลวง ราชินี ทรงแข็งแรง เสด็จประทับหัวหิน จัดทีมถวายการดูแลพร้อมแล้ เผยทรงห่วงใยประชาชนอยู่ตลอด

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า โดยรวมแล้วพระอาการดีขึ้นมาก มีพระราชประสงค์เสด็จฯแปรพระราชฐาน ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน เพื่อทรงเปลี่ยนพระอิริยาบถให้ทรงมีพระวรกายที่แข็งแรงยิ่งขึ้น อีกทั้งให้ทรงพระสำราญ

ส่วนพระอาการของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นั้น โดยรวมแล้วพระอาการดีขึ้น ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง สามารถทรงพระดำเนินได้ดี

ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า คณะแพทย์ที่ถวายการดูแลอยู่ในปัจจุบัน ก็จะตามไปถวายการดูแลที่พระราชวังไกลกังวลทั้งหมด ประเด็นสำคัญที่สุดคือ ความปลอดภัย อย่างที่พวกเราทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช 3 ปีกับ 10เดือน วันที่ 19 ก.ย.นี้ก็จะครบ 4 ปี ที่ผ่านมาพระโรคทั้งหลายอยู่ในเกณฑ์ดี แต่จะมีบางช่วงที่ยังมีพระอาการเป็นครั้งคราว  เช่น มีการติดเชื้อเป็นต้นก็จะทำให้สุขภาพทรุดลง พอถวายการรักษาก็ดีขึ้นโดยสุขภาพต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกเยอะ เนื่องจากทรงมีพระอายุมากแล้วอันนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ บางช่วงของพระองค์เป็นเหมือนคนไข้ที่รอพักฟื้นประมาณนั้น

"อยากให้เข้าใจว่าทำไมท่านไม่ออกจากโรงพยาบาลสักที ก็คือท่านก็พักฟื้นอยู่ แต่การพักฟื้นของพระองค์ท่านบางทีจะกลับมาเป็นปกติต้องใช้เวลา และถ้ามีภาวะอะไรมาแทรกซ้อนก็จะทรุดไปอีกอันนี้ก็ถือเป็นธรรมชาติของคนที่สูงอายุ"ศ.คลินิก นพ.อุดม

ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่พระองค์ท่านพระสุขภาพทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ดีมาก คณะแพทย์ที่ถวายความปลอดภัยในเรื่องของพระสุขภาพเป็นสำคัญ ซึ่งได้ไปเตรียมที่ วังไกลกังวล เตรียมตั้งแต่เรื่องสถานที่ให้เหมาะกับการที่จะต้องดูแลรักษาพยาบาล เตรียมเครื่องมือไว้เรียบร้อยหมดแล้วมีการเตรียมการไว้หลายวันแล้ว ขณะเดียวกันเตรียมโรงพยาบาลที่หัวหินด้วยในกรณีฉุกเฉินอาจต้องเข้าโรงบาลที่หัวหินก่อนเบื้องต้นก่อนที่จะกลับมาที่โรงพยาบาลศิริราช

"ในเรื่องของความพร้อมเราคิดว่าพร้อมเต็มที่ แพทย์พยาบาลก็ได้จัดไปอยู่เวรที่หัวหินเหมือนกับเวรที่ศิริราชเลยไม่ได้ลดจำนวนลงเลย ถือว่าเป็นการถวายความปลอดภัยในแง่สุขภาพสูงสุด อันนี้ก็ได้กราบบังคมทูลไปว่าให้ทรงสบายพระทัยว่าต่อไปนี้ว่าเหมือนมีสองบ้าน หนึ่งคือบ้านศิริราชสองบ้านที่ไกลกังวล ถ้ามีพระราชประสงค์ที่จะไปประทับพระราชวังไกลกังวลจะไปเช้าเย็นกลับหรือว่าจะไปค้างคืนสามคืนทางศิริราชก็พร้อมที่จะไปถวายการดูแลรักษา และถ้ามีพระราชประสงค์จะกลับมาศิริราชทางเราก็พร้อมตลอดเวลา ซึ่งตรงนี้อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า เนื่องจากทรงมีพระอายุมากแล้ว โอกาสที่จะมีพระอาการต่างๆเกิดได้ตามธรรมชาติ เพราะฉะนั้นช่วงไหนดีก็อยู่ศิริราชบ้างอยู่ไกลกังวลบ้างถือเป็นเรื่องปกติ ที่สำคัญประชาชนจะได้ชื่นชมพระบารมีของทั้งสองพระองค์ โดยเฉพาะสำคัญช่วงนี้เข้าใจว่าทุกคนคงอยากเห็นพระศิริโฉมสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถหลังจากที่ทรงพระประชวรยังไม่ได้ให้ประชาชนได้เห็น ในวันนี้ก็จะเสด็จฯพระราชดำเนินไปด้วย

"พระสุขภาพทั่วไปดี แต่เนื่องจากว่า ช่วงที่เสด็จฯพระราชดำเนิน คณะแพทย์ขอพระราชทานให้ทั้งสองพระองค์ทรงใช้รถเข็นไฟฟ้าพระที่นั่งเพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ประชาชนจะได้สบายใจ เพราะจริงๆ ทั้งสองพระองค์ทรงพระดำเนินได้อย่างเป็นปกติ ในกรณีที่มีอะไรเร่งด่วน ทางคณะแพทย์มีความพร้อม โดยเราได้เตรียมเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งได้ฝึกการรับทั้งสองพระองค์ขึ้นลงเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง มีความพร้อมทุกอย่าง"

ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวอีกว่า การเสด็จครั้งนี้ นอกจากประชาชนจะได้ชื่นชมพระบารมีแล้ว ที่สำคัญเป็นการถวายกำลังพระทัยที่สำคัญยิ่งต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพราะตลอดระยะเวลาที่ประทับที่ศิริราชมาประมาณ 3 ปีกว่า ทั้งสองพระองค์ททรงนึกถึงประชาชนตลอด ทรงรับสั่งกับคณะแพทย์พยาบาลเรื่องของประชาชนเรื่องโครงการพระราชดำริต่างๆ ทรงมีความห่วงใยตลอด อย่างเมื่อตอนน้ำท่วมเมื่อปี 2554 รับสั่งชัดเจนว่า ถ้าเราสบายดี ออกจากโรงพยาบาลได้ น่าจะไปช่วยได้มากกว่านี้ เป็นการสะท้อนถึงพระทัยที่ทรงห่วงใยอย่างมาก นอกจากนี้ ยังทรงดูแลความเป็นไปรอบๆ โรงพยาบาลศิริราช และรอบฝั่นธนบุรีตลอด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานการแก้ไขปัญหาการจราจรรอบโรงพยาบาลศิริราช และฝั่งธนบุรี

ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า จากการที่พระองค์ทอดพระเนตรทางพระบัญชรทุกวันแล้วทรงเห็นว่ารถติด จึงมีพระราชดำริว่า ยิ่งเปิดโรงพยาบาลใหม่ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ตรงรถไฟ ยิ่งจะทำให้รถยิ่งติดมากขึ้น พระองค์พระราชทานโครงการพระราชดำริ 4 โครงการในการแก้ไขการจราจร โครงการที่ 1 ทรงให้ปรับพื้นถนนรอบๆ โรงพยาบาลให้กว้างขึ้นและดีขึ้น โครงการที่ 2 ขยายสะพานอรุณอมรินทร์จาก 4 เลนเป็น 6 เลน และจะมีสะพานยกระดับข้ามแยกศิริราชไปกองทัพเรือ ซึ่งได้งบประมาณมาแล้ว 1,400 ล้าน จะช่วยบรรเทารถติดไปได้ โครงการที่ 3  มีพระราชดำริให้ขยายถนนสุทธาวาส ซึ่งเป็นถนนที่ข้ามทางรถไฟไปทะลุถนนจรัลสนิทวงศ์ พระราชทานให้ขยายถนนจาก 2 เลน เป็น 4 เลน และทำสะพานข้ามถนนจรัลสนิทวงศ์ โครงการที่ 4 มีพระราชดำริให้ทำทางยกระดับเหมือนทางยกระดับบรมราชชนนี จากปิ่นเกล้าข้ามคลองบางกอกน้อย แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนอิสรภาพ ถึงแยกพรานนกแล้วเลี้ยวขวา ผ่านแยกไฟฉาย เป็นถนนยกระดับไปลงที่พุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาจราจรได้มาก  

"แม้จะทรงพระประชวรแต่ก็ทรงนึกถึงประชาชน นึกถึงการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชนเสมอ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป้นล้นพ้น" ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าว

อนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2552 จนกระทั่งถึงวันที่ 1 ส.ค. ที่จะเสด็จฯกลับไปประทับ ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะเวลาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราชของทั้งสองพระองค์ ประมาณ 3 ปี 10 เดือน โดยมีแถลงการณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งหมด 65 ฉบับ และแถลงการณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระประชวรขณะประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งหมด 14 ฉบับ

ในหลวง-พระราชินีทรงแข็งแรงเสด็จประทับหัวหิน

 

ในหลวง-พระราชินีทรงแข็งแรงเสด็จประทับหัวหิน