ท้องฟ้าปิดช่วยจนท.-สื่อติดป่าล้มเหลว
ทหารยังคว้าน้ำเหลวหลังพยายามใช้เฮลิคอปเตอร์รับเจ้าหน้าที่และนักข่าวติดป่าชายแดนไทย-พม่าเนื่องจากท้องฟ้าปิด
ทหารยังคว้าน้ำเหลวหลังพยายามใช้เฮลิคอปเตอร์รับเจ้าหน้าที่และนักข่าวติดป่าชายแดนไทย-พม่าเนื่องจากท้องฟ้าปิด
กรมทหารราบที่ 19 กองกำลังสุรสีห์ ได้พยายามที่จะนำเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพบก เข้าไปรับเจ้าหน้าที่ พร้อมผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ขณะกำลังทำการลักลอบเผาและทำลายป่าจำนวน 6 คน และนักข่าวของประเด็นเด็ด 7 สี จำนวน 3 คนที่เข้าไปทำข่าวการบุกรุกป่าที่บริเวณแนวชายแดนไทย-พม่า เขตรอยต่อจ.ราชบุรีและจ.เพชรบุรี เขตต.ยางน้ำกลัดเหนือ จ.เพชรบุรี ซึ่งรวมทั้งหมด 50 นาย ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ออกจากบริเวณดังกล่าว แต่เนื่องจากสภาพอากาศนั้นยังมีฝนตกอยู่ตลอด ทำให้เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถที่จะเข้าในบริเวณจุดที่เกิดเหตุได้ คงทำได้เพียงแต่การส่งเสบียงอาหารเข้าไปตามจุดซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุหลายกิโลเมตร
ทั้งนี้สำหรับการเข้าไปปฎิบัติการในครั้งนี้ เนื่องจากมีการสนธิกำลัง จากค่ายทัพพระยาเสือ ร่วมกับกองกำลังทหารพรานกองร้อยที่ 947 กองกำลังตํารวจตระเวนชายแดนกองร้อย ตชด.144 กองร้อยเคลื่อนที่เร็ว และเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจังหวัดเพชรบุรี รวม 5 ฝ่าย เข้าปฏิบัติภารกิจออกลาดตระเวนด้วยเดินเท้าเพื่อค้นหา ทำการจับกุมผู้บุกรุก และลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามขณะนี้เป็นเวลา 5 วันแล้วที่เจ้าหน้าที่ทั้งหมดติดอยู่ในป่า และสามารถจับกุมผู้กระทําผิดได้ 6 คน และยึดพื้นที่ป่าถูกบุกรุกปลูกข้าวเลื่อนลอย ได้กว่า 70 ไร่ บ้านที่ปลูกเป็นกระต๊อบหลายหลัง และยุ้งข้าว ซึ่งการเดินทางนั้นต้องใช้เฮลิคอปเตอร์หรือการเดินเท้าเท่านั้นซึ่งอาจจะต้องใช้เวลากว่า 7 วัน ด้วยสภาพอากาศที่เลวร้ายมาตลอด 2 วันที่ผ่านมา ทําให้เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงเตะพื้นได้ เพราะมีเมฆฝนปกคลุมหนาแน่น ลมแรง และฝนตกลงมาเป็นระยะโดยจะรอจนกว่าท้องฟ้าเปิดเท่านั้นซึ่งถือเป็นภารกิจเร็งด่วนที่จะต้องให้เจ้าหน้าที่ที่ติดค้างอยู่ในป่าเดินเท้าออกมาที่จุดเฮลิคอปเตอร์ลงจอดได้