posttoday

ร.ร.ชายแดนควักเงินสร้างบังเกอร์เอง

07 กรกฎาคม 2554

โรงเรียนชายแดนบุรีรัมย์เหยื่อปืนใหญ่เขมร ควักเงินซื้อกระสอบทรายทำบังเกอร์หลบภัยเอง

โรงเรียนชายแดนบุรีรัมย์เหยื่อปืนใหญ่เขมร ควักเงินซื้อกระสอบทรายทำบังเกอร์หลบภัยเอง

ร.ร.ชายแดนควักเงินสร้างบังเกอร์เอง

คณะครู และนักเรียน โรงเรียนบ้านโคกกะชาย ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเสี่ยงภัยที่ตั้งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพียง 3.50 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับฝ่ายกัมพูชา เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่มีลูกระสุนปืนใหญ่ BM-21 ตกเข้ามาในหมู่บ้าน วัด และในโรงเรียนกว่า 30 ลูก โดยแรงอัดจากกระสุนปืนใหญ่ ทำให้กระจกโรงเรียนแตกเสียหาย ได้ซักซ้อมเด็กนักเรียนวิ่งเข้าหลุมหลบภัย ที่ทางโรงเรียนได้ใช้งบประมาณของโรงเรียนเองบางส่วน ไปซื้อทรายมาบรรจุกระสอบวางรอบบริเวณ และซ่อมแซมหลุมหลบภัยเก่าที่สร้าง มานานกว่า 20 ปี ที่มีสภาพเก่าชำรุด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร หากเกิดเหตุปะทะซ้ำอีก หลังจากไทยได้ถอนตัวออกจากการเป็นภาคีสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก

นายธนเทพ จริงประโคน รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกกะชาย  กล่าวว่า  หลุมหลบภัยเก่าที่มีอยู่ในโรงเรียน  ไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียนที่มีอยู่กว่า 240 คน ทางโรงเรียนยังคงรองบประมาณที่ทางภาครัฐจะจัดสรรลงมาทำการก่อสร้างหลุมหลบภัยที่ได้มาตรฐาน จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับงบประมาณดังกล่าว จึงร้องขอให้ทางรัฐบาลเร่งจัดสรรงบประมาณ มาดำเนินการก่อสร้างหลุมหลบภัยให้กับผู้ปกครอง ครู และนักเรียนอย่างเร่งด่วนด้วย เพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ว่าจะเกิดการสู้รบกันอีกในวันไหน

นายธนเทพ กล่าวอีกว่า แม้สถานการณ์ชายแดนจะยังเป็นปกติ และการเลือกตั้งเพิ่งเสร็จสิ้น จึงอยากวิงวอนรัฐบาลชุดใหม่ เร่งแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ให้สงบโดยเร็ว ไม่ใช่ปล่อยให้ ชาวบ้าน และเด็กตามแนวชายแดน หวาดผวาเกรงจะเกิดการสู้รบอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนก็ไม่ประมาท ได้มีการให้ความรู้แก่เด็กนักเรียนหน้าเสาธงอยู่เป็นประจำว่า หากเกิดการสู้รบขึ้นทุกคนจะต้องปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้ได้รับความปลอดภัย ซึ่งทั้งครู และเด็กนักเรียนต่างเข้าใจดี   เชื่อว่าสถานการณ์ชายแดนจากนี้ไป จะเริ่มคลี่คลายตามลำดับ หากรัฐบาลรีบเร่งปัญหาและเจรจากันระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ โดยเร็ว