บิ๊กจิ๋วเชื่อปชป.รักษามารยาทไม่ตั้งรัฐบาลแข่ง

"บิ๊กจิ๋ว" ลงพื้นที่กาญจน์ ช่วยเสธ.นิด หาเสียงโค้งสุดท้ายเลือกตั้งเมืองกาญจน์  ย้ำหากเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจริง พาทักษิณ กลับเป็นเรื่องที่ทำได้แต่ต้องอยู่ในกติกา เชื่อหาก ปชป.ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 จะรักษามารยาททางการเมือง ไม่แย่งจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อเวลา 08.00 น.  พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 22 ของไทย อดีตประธานพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมายัง จ.กาญจนบุรี เพื่อช่วย พล.ต.ศรชัย มนตริวัต หรือ เสธนิด ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 2 โดยจุดแรกได้เดินทางมายังบ้านพักของ นายชูศักดิ์ แม้นทิม หรือ "สจ.เจี๊ยบ" ส.อบจ. อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ที่บ้านพัก ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง เพื่อรับประทานอาหารเช้า โดยมี พล.อ.วัฒนา สรรพานิช อดีต สว.กาญจนบุรี พร้อมบรรดานักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น และพ่อค้าประชาชน กว่า 500 คน ร่วมให้การต้อนรับ

จากนั้น พล.อ.ชวลิต ได้ลงพื้นที่เขตเทศบาลตำบลท่าม่วง อ.ท่าม่วง และเขตเทศบาลตำบลหนองขาว อ.ท่าม่วง เพื่อช่วย พล.ต.ศรชัย หาเสียง โดยใช้เวลาในการพบปะประชาชนราว 2 ชั่วโมง โดยหลักจะใช้วิธีการลงพบปะเยี่ยมเยียนกับแกนนำคนสำคัญในพื้นที่ หลังจากใช้เวลาในการลงพื้นที่เสร็จแล้ว พล.อ.ชวลิต ได้เดินทางไปพักผ่อนยังบ้านพักของ พล.ต.ศรชัย ที่ ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี

พล.อ.ชวลิต กล่าวถึงทิศทางการเมืองไทยว่า วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรองดรองสมานฉันท์ก่อนเป็นหลัก ซึ่งตนเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรคเพื่อไทย มีแนวทางชัดเจนในเรื่องของความปรองดอง และไม่ว่าพรรคไหนมาเป็นรัฐบาลจะต้องทำเรื่องนี้ก่อน ส่วนเรื่องการพัฒนาด้านต่างๆ รวมทั้งด้านเศรษฐกิจเป็นเรื่องรองลงมา เพราะเรามีฐานอยู่แล้วทำได้ไม่ยาก แต่วันนี้ต้องลดความขัดแย้งของคนในชาติให้ได้เสียก่อน

พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวปฏิวัติที่มีมาตลอด เราต้องเข้าใจ ผบ.เหล่าทัพ ท่านพยายามพูดว่าไม่มี แต่มีคนมาพูดว่า ผบ.เหล่าทัพคนไหนที่ออกมายืนยันว่าไม่มีการปฏิวัติ หากพูดแบบว่าไม่มีปฏิวัติก็เกิดปฏิวัติทุกที ตนอยากเห็นการแก้ไขด้วยวิธีอื่นๆ โดยการทำความตกลงร่วมกันกับทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกของปัญหาร่วมกัน ส่วนการยึดอำนาจรัฐประหาร ในส่วนลึกๆ คือ ทหารกำลังพยายามที่จะแก้ไขปัญหาเพื่อให้ประเทศมีความเป็นประชาธิปไตย โดยอยากสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันของประชาชนให้เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนมีอำนาจอย่างแท้จริง เป็นการปกครองของประชาชนอย่างแท้จริง เป็นการปกครองของประชาชนที่จะสร้างความเป็นเอกภาพ มาตรฐานเดียวกัน ไม่ใช่สองมาตรฐานอย่างที่ผ่านมา เพื่อให้การปกครองที่เป็นผลประโยชน์ต่อประชาชน เพื่อให้พวกเขาได้รับผลประโยชน์ด้วยความเป็นธรรม เท่าเทียมกัน ซึ่งทหารเองก็อยากสร้างในสิ่งเหล่านี้ แต่เมื่อออกมายึดอำนาจรัฐประหารก็ถูกต่อว่าว่าไม่สร้างประชาธิปไตย ได้แต่รัฐธรรมนูญเท่านั้น โดยยังต้องแสวงหาความเป็นประชาธิปไตยกันต่อไป และก็ยังมีความเลื่อมล้ำกันในสังคมสูงถึง 60-70 เท่า อยู่อย่างนี้

เมื่อถามว่า หลังเลือกตั้งความวุ่นวายในประเทศ จะยุติลงหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า การเลือกตั้งไม่ได้สร้างการปรองดรอง เป็นเพียงทางออกทางหนึ่งด้วยการคืนอำนาจแก่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะเอาใครหรือพรรคไหนกลับมานั่งบริหารประเทศ โดยให้ประชาชนเป็นคนเลือก

 สำหรับกรณีที่พรรคที่มีคะแนนมาเป็นอันดับ 2 จะรวบรวมกับพรรคเล็กเพื่อจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เป็นมารยาทต้องให้พรรคที่มีคะแนนมากกว่าตั้งรัฐบาลก่อน ขอยกตัวอย่างเมื่อปี 2539 พรรคความหวังใหม่ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 โดยชนะพรรคประชาธิปัตย์ไม่กี่คน ตอนนั้น นายชวน หลีกภัย ก็ให้พรรคความหวังใหม่จัดตั้งรัฐบาลก่อน ถือเป็นสุภาพบุรุษทางการเมือง แต่เมื่อพรรคความหวังใหม่เข้าไปบริหารประเทศแล้วมีปัญหาไม่สามารถดำเนินการบริหารได้ นายกรัฐมนตรีจึงประกาศลาออก ให้พรรคประชาธิปัตย์ จัดตั้งรัฐบาลแทน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ มีความเป็นสุภาพบุรุษทางการเมือง ฉะนั้นตนไม่เชื่อว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนมาเป็นอันดับ 2 จะแย่งจัดตั้งรัฐบาลก่อน เพราะยังเชื่อในสปิริตของพรรคประชาธิปัตย์ โดยทุกฝ่ายต้องมองว่าเราขึ้นมาเป็นรัฐบาลเพื่อช่วยกันทำงานให้บ้านเมือง ไม่ใช่ขึ้นมาเพื่อฆ่ากัน

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า หากเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งจะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เขาจะทำอะไรเอาใครกลับมาเป็นสิทธิของเขา เขาจะทำอะไรก็ได้ แต่ต้องดูด้วยว่าเหมาะสม และเป็นไปตามกฎกติกาหรือไม่ เพื่อให้ทุกสิ่งออกมาในลักษณะสร้างสรรค์ ซึ่งหากเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์ก็ควรสนับสนุน อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งไปตีโพยตีพาย เราคนไทยอยู่ด้วยกันแค่นี้ ซึ่งหวังว่าทุกอย่างจะนำสันติสุข นำเอาความเจริญก้าวหน้ามาสู่ประเทศไทย เพราะเราไม่มีเวลาอีกแล้ว