ฌาปนกิจพระเหยื่อโจรบึ้มใต้
พระสงฆ์ประชาชนนับพันร่วมพิธีฌาปนกิจพระสมุห์ชาตรี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่มรณภาพจากเหตุโจรใต้ลอบวางระเบิด นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจ พระสมุห์ชาตรี กันตรโต อายุ 47 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่วัดยะลาธรรมราม อ.เมือง ซึ่งมรณภาพจากเหตุการณ์ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ระหว่างเดินทางไปรับบิณฑบาตในพื้นที่บ้านบาโอ ม.8 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นเหตุให้พระมรณภาพ 2 รูป และเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 54 ที่ผ่านมา ภายในงานพิธีฌาปนกิจวันนี้ ได้มีพระสงฆ์ที่เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่ใกล้เคียง มาร่วมพิธีฌาปนกิจ จำนวนมาก นอกจากนี้ ก็ยังมีพ่อค้าประชาชนและข้าราชการต่างก็เดินทางมาร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 คน โดยทางญาติได้จัดงานกันแบบเรียบง่ายตามพิธีการของสงฆ์ จัดทำเมรุไว้ที่หน้าศาลาบำเพ็ญกุศลศพ และจะมีการฌาปนกิจกลางแจ้ง พระสมุห์ชาตรี กันตรโต แต่เดิมมีนา
พระสงฆ์ประชาชนนับพันร่วมพิธีฌาปนกิจพระสมุห์ชาตรี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่มรณภาพจากเหตุโจรใต้ลอบวางระเบิด
นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจ พระสมุห์ชาตรี กันตรโต อายุ 47 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่วัดยะลาธรรมราม อ.เมือง ซึ่งมรณภาพจากเหตุการณ์ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ระหว่างเดินทางไปรับบิณฑบาตในพื้นที่บ้านบาโอ ม.8 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นเหตุให้พระมรณภาพ 2 รูป และเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 54 ที่ผ่านมา
ภายในงานพิธีฌาปนกิจวันนี้ ได้มีพระสงฆ์ที่เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่ใกล้เคียง มาร่วมพิธีฌาปนกิจ จำนวนมาก นอกจากนี้ ก็ยังมีพ่อค้าประชาชนและข้าราชการต่างก็เดินทางมาร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 คน โดยทางญาติได้จัดงานกันแบบเรียบง่ายตามพิธีการของสงฆ์ จัดทำเมรุไว้ที่หน้าศาลาบำเพ็ญกุศลศพ และจะมีการฌาปนกิจกลางแจ้ง
พระสมุห์ชาตรี กันตรโต แต่เดิมมีนามว่า นายชาตรี ทองราช บิดาชื่อ นายลิขิต กับ คุณแม่เห้ง ทองราช ภูมิลำเนาเดิมเกิดที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีพี่น้อง 3 คน และพระสมุห์ชาตรี เป็นบุตรคนที่ 3 ต่อมาได้ขอบรรพชาอุปสมบทเมื่อวันที่ 8 กุมภาพพันธ์ 2547 และจำพรรษาอยู่ที่วัดมะปริงวรีราม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งได้รับนามฉายาว่า “กันตรโต” และได้ศึกษาทางธรรม จนสอบไล่ได้นักธรรมเอก
เมื่อทราบว่าท่านอาจารย์ธวัชชัย เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้สิ้นบุญลง เมื่อปี 2552 หลังจากนั้นเมื่อต้นปี 2553 พระสมุห์ชาตรี ได้อาสาไปเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดสวนแก้วตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และได้มรณภาพเมื่อวันที่ 16 พ.ค.54 จากเหตุถูกลอบวางระเบิด ซึ่งพระสมุห์ชาตรี ได้บวชพระมาได้รวม 7 พรรษา.
นายกฤษฏา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจ พระสมุห์ชาตรี กันตรโต อายุ 47 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ที่วัดยะลาธรรมราม อ.เมือง ซึ่งมรณภาพจากเหตุการณ์ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ระหว่างเดินทางไปรับบิณฑบาตในพื้นที่บ้านบาโอ ม.8 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นเหตุให้พระมรณภาพ 2 รูป และเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 54 ที่ผ่านมา
ภายในงานพิธีฌาปนกิจวันนี้ ได้มีพระสงฆ์ที่เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่ใกล้เคียง มาร่วมพิธีฌาปนกิจ จำนวนมาก นอกจากนี้ ก็ยังมีพ่อค้าประชาชนและข้าราชการต่างก็เดินทางมาร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 คน โดยทางญาติได้จัดงานกันแบบเรียบง่ายตามพิธีการของสงฆ์ จัดทำเมรุไว้ที่หน้าศาลาบำเพ็ญกุศลศพ และจะมีการฌาปนกิจกลางแจ้ง
พระสมุห์ชาตรี กันตรโต แต่เดิมมีนามว่า นายชาตรี ทองราช บิดาชื่อ นายลิขิต กับ คุณแม่เห้ง ทองราช ภูมิลำเนาเดิมเกิดที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีพี่น้อง 3 คน และพระสมุห์ชาตรี เป็นบุตรคนที่ 3 ต่อมาได้ขอบรรพชาอุปสมบทเมื่อวันที่ 8 กุมภาพพันธ์ 2547 และจำพรรษาอยู่ที่วัดมะปริงวรีราม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งได้รับนามฉายาว่า “กันตรโต” และได้ศึกษาทางธรรม จนสอบไล่ได้นักธรรมเอก
เมื่อทราบว่าท่านอาจารย์ธวัชชัย เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้สิ้นบุญลง เมื่อปี 2552 หลังจากนั้นเมื่อต้นปี 2553 พระสมุห์ชาตรี ได้อาสาไปเป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดสวนแก้วตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และได้มรณภาพเมื่อวันที่ 16 พ.ค.54 จากเหตุถูกลอบวางระเบิด ซึ่งพระสมุห์ชาตรี ได้บวชพระมาได้รวม 7 พรรษา.