พบมือปืนซุ้มตะวันตก-ใต้ เคลื่อนไหวอยุธยา

ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.พระนครศรีอยุธยาสั่งตำรวจลงพื้นที่ตรวจเช็คหาข่าวมือปืนซุ้มภาคตะวันตก และภาคใต้ ว่าเข้ามาเคลื่อนไหวใน จ.พระนครศรีอยุธยา  หรือไม่ หลังนักการเมืองในท้องถิ่นส่งสัญญาณพบการเคลื่อนไหวของทีมสังหารเตรียมป่วนช่วงเลือกตั้งส.ส.

พล.ต.ต.อนุรักษ์   แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าจากกรณีกระแสข่าววงในและกระแสข่าวความเคลื่อนไหวของนักการเมืองในจังหวัดออกตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีมือปืนซุ้มภาคตะวันตก ทั้งจาก จ.ราชบุรี  และจ.เพชรบุรี  และภาคใต้  จาก จ.ชุมพร  และ จ.สุราษฎร์ธานีเข้ามาเคลื่อนไหวหรือรับงานในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา

โดยเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการแต่เท่าที่ทราบมีนักการเมืองในจังหวัดเคยพูดคุยกันว่าช่วงนี้มีกลุ่มมือปืนจาก 2 ซุ้มข้างต้น เข้ามารับงานใน จ.พระนครศรีอยุธยาแต่ยังไม่รู้ว่าเป้าหมายเป็นใครและเพื่อเป็นการทำงานเชิงรุกและป้องกันเหตุได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนจังหวัดฯ และชุดสืบสวนทุกโรงพักลงพื้นที่หาข้อมูลเชิงลึกว่ามีจริงหรือไม่และหากเป็นจริงเป้าหมายของกลุ่มมือปืนเป็นใครและมีความขัดแย้งกับกลุ่มใด  เพราะจะได้สกัดไม่ให้มือปืนกลุ่มนี้ทำงานได้

พล.ต.ต.อนุรักษ์   กล่าวอีกว่าส่วนการเตรียมพร้อมของตำรวจในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.นั้นได้ประชุมชุดสืบสวนของแต่ละสถานีไปแล้วให้ตรวจสอบข้อมูลมือปืนรับจ้างว่าใครมีความเชื่อมโยงกับใครและมีการจัดหามือปืนเข้ามาแต่ละพื้นที่หรือไม่โดยให้จัดส่งข้อมูลทั้งหมดในทางลับเพื่อความรวดเร็วทันต่อสถานการณ์

นอกจากนี้หากผู้สมัคร ส.ส.คนใดต้องการตำรวจติดตามในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้งเพราะเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัยในชีวิต  ก็สามารถร้องขอมาได้โดยจะอำนวยความสะดวกให้ทุกพรรคอย่างเท่าเทียมกันอย่างไรก็หวังว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนในบางจังหวัด

มีรายงานจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำบัญชีรายชื่อของมือปืนรับจ้างในช่วงนี้โดยบุคคลลำดับที่ 1 ที่ตำรวจภูธรภาค 1 ต้องการตัวมากที่สุดขณะนี้เปลี่ยนจาก ส.อ.บุญย์ตรี มุสะกะ หรือ จ่าบึ๋ง   มาเป็น  นายกิจเหมือนวงศ์ธรรม  หรือ  แอ้ว  บางละมุง

นอกจากนี้ยังมีซุ้มมือปืนกลุ่มคนมีสีกลุ่มใหญ่ทั้งใน จ.สระบุรี  และจ.ลพบุรี  ที่ตำรวจภูธรภาค 1  ติดตามเป็นพิเศษเพราะมีข่าวว่ามีการรับงานในช่วงเลือกตั้งมาแล้วอย่างน้อย 4 จังหวัด  คือ จ.สระบุรี จ. ลพบุรี  จ.อ่างทอง  และ จ.พระนครศรีอยุธยาซึ่งซุ้มมือปืนใน 2 จังหวัดนี้มีกลุ่มค่อนข้างใหญ่และมีโครงข่ายโยงใยถึงกันหมดแต่สิ่งที่ตำรวจภูธรภาค 1 กำลังพบปัญหา คือ  ยังไม่มีหลักฐานในการก่อเหตุ
 ยังไม่สามารถขึ้นบัญชีไว้ได้  เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้องแต่ได้มีการส่งชุดเคลื่อนที่เร็วติดตามกลุ่มมือปืนกลุ่มนี้แล้วเช่นกันและเชื่อว่าการที่ พล.ต.อ.อัศวิน  ขวัญเมือง  รรท.ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1  , พล.ต.ต.คำรณวิทย์  ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภาค1 กำชับเรื่องนี้มาเป็นพิเศษในช่วงเลือกตั้ง  คาดว่าจะทำให้ความรุนแรงใน3 - 4 จังหวัดนี้ลดลง