หินถล่ม!ทับบ้านในอ.สวี

ชุมพร หินถล่ม ทับบ้านเรือนราษฎร หมู่ 8 ต.เขาค่าย อ.สวี เสียหายกว่า 10 หลัง  คาดความเสียหายจากเหตุภัยพิบัติทะลุ 70 ล้าน

นายนพพร อุสิทธิ์ ประธานสภา อบจ.ชุมพร รับแจ้งจาก นายจรัญ รอดทับ อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ว่า เกิดเหตุหินภูเขาพ่อตาขุนไกร ซอยหินตัด หมู่ 8 ต.เขาค่าย ถล่มลงมาทับบ้านเรือนชาวบ้าน  จึงเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ  ซึ่งเป็น ริมคลองสวีหนุ่ม มีหินขนาดใหญ่ถล่มจากภูเขา กว่า 10 ก้อน   ลงมาทับบ้านเลขที่ 156/1 หมู่ 8 ของ นางบุบผา นวลจุ้ย อายุ 40 ปี ได้รับความเสียหายทั้งหลัง โชคดีเจ้าของบ้านไม่อยู่   จึงไม่มีใครได้รับอันตราย   นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงยังมีบ้านของราษฎรยังได้รับความเสียหายเล็กน้อย จากหินถล่มกว่า 10 หลังคาเรือน 

นายนิพทธ์   เล่าว่า “ได้ยินเสียงเหมือนฟ้าผ่า มาจากที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นแผ่นดินสั่นสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหว และได้ยินดังต่อเนื่องร่วม 5 นาที จึงวิ่งไปดูที่เกิดเหตุ พบ  หินขนาด ใหญ่ถล่มทับ บ้าน และถนนเส้นทางเข้าหมู่บ้าน   สวนยางพารา สวนปาล์ม เสียหาย หลายสิบไร่ 

ความเสียหายจากอุทกภัยเพิ่มขึ้นกว่า 70 ล้านบาทแล้ว

ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จังหวัดชุมพร สรุปความเสียหายจากอุทกภัย วาตภัย และ ดินถล่ม ในพื้นที่ จ.ชุมพร ตั้งแต่วันที่ 23-31 มีนาคม 2554 ว่า มีพื้นที่ประสบภัยรวม 8 อำเภอ 1 เทศบาลเมือง (ทม.หลังสวน 17 ชุมชน) 58 ตำบล 514 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 60,887 คน 20,458 ครัวเรือน ความเสียหายจากการสำรวจเบื้องต้นประมาณ 63,919,000 บาท ยังไม่รวมความเสียหายของ อ.ละแม และ อ.ท่าแซะ ที่อยู่ระหว่างการสำรวจ แต่คาดว่าหากรวมทั้ง 8 อำเภอคงไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท 

ส่วนการช่วยเหลือ กลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน 17 คนในพื้นที่ หมู่ที่ 9 ต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร ที่นำเรือประมงพื้นบ้านขนาดเล็กออกจับปลาตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม2554 แต่ยังไม่สามารถกลับเข้าฝั่งได้ ต้องอดอาหารมานานกว่า 6 วัน เพราะเตรียมเสบียงไปแค่ 3 วันเท่านั้น อีกทั้งไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่ ต้องหลบลมพายุและคลื่นขนาดใหญ่ในทะเลขึ้นไปอยู่บนเกาะอ่างทอง ห่างฝั่งประมาณ 50 กม.และชาวประมงบางคนเริ่มมีอาการป่วยแล้ว

 พ.ต.ท. ก จารุ สังขมรรทร   (อ่านว่า กอ-จารุ  สัง-ขะ-มัค)  รอง ผู้กำกับการ กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ  กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสุราษฏร์ธานีได้นำเรือตรวจการณ์ 517  เข้าไปยังเกาะอ่างทอง บริเวณรอยต่อระหว่าง จ.ชุมพร กับ จ.สุราษฏร์ธานี  พร้อมกับนำอาหารไปส่งให้ชาวประมงทั้ง 17 คน ที่ติดอยู่บนเกาะเพื่อประทังชีวิต ซึ่งชาวประมงยืนยันว่าจะขออยู่เฝ้าเรือประมงทั้ง 5 ลำไปจนกว่าคลื่นลมจะสงบลง จากนั้นจึงจะนำเรือกลับเข้าฝั่งในพื้นที่ ต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร ส่วนชาวประมงที่ล้มป่วยได้นำกล่องบรรจุยาและเวชภัณฑ์มอบให้ซึ่งทราบว่าอาการดีขึ้นแล้ว คาดว่าอีกไม่เกิน 3 วัน ชาวประมงทั้งหมดคงสามารถนำเรือกลับเข้าฝั่งได้