posttoday

ตะเพิด"หลวงเจ๊"พ้นจากพระแล้วผิดชัดเจนกลับมาบวชใหม่ไม่ได้

15 พฤษภาคม 2565

นครราชสีมา-มติคณะสงฆ์โคราชสั่งให้"หลวงเจ๊"ขาดจากความเป็นพระแล้ว หลังพบพฤติกรรมซื้อบริการเณรมีคลิปหลักฐานชัดเจนมีความผิดถึงขั้นปาราชิกขาดจากความเป็นพระ กลับมาบวชใหม่ไม่ได้

ความคืบหน้ากรณี พระมหานภารัตน์ อายุ 26 ปี พำนักอยู่ที่วัดอิสาณ บ้านหนองแสง ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น มีพฤติกรรมชายรักชายชอบตระเวนไปตามวัดต่างๆ ที่มีสามเณรอยู่จำนวนมาก แล้วจะเข้าไปชักชวนให้สามเณรมาขายบริการทางเพศตามที่มีการเสนอข่าวนั้น

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม นายศิวะเสก สินโทรัมย์ นายอำเภอลำทะเมนชัย จังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลจาก นายสว่าง ดีไธสง ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วง หมู่ 12 ต.บ้านยาง อ.ลำทะเมนชัย ถึงกรณีดังกล่าว ทราบว่า พระมหานภารัตน์ นันทโก หรือหลวงเจ๊ มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านหนองม่วง และเคยบวชจำวัดอยู่ที่วัดจันทนไชยศรี แต่ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดอื่นนานหลายปีแล้ว

ตะเพิด"หลวงเจ๊"พ้นจากพระแล้วผิดชัดเจนกลับมาบวชใหม่ไม่ได้

พระครูปลัดระพี จกฺกวโร เลขานุการเจ้าคณะอำเภอลำทะเมนชัย เปิดเผยว่า พระมหานภารัตน์ เดิมได้อุปสมบทที่วัดศิริโภคาภิรมย์ ต.ช่องแมว อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน โดยมีเจ้าคณะอำเภอชุมพวงเป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดจันทนไชยศรี ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่วัดในพื้นที่ จ.ขอนแก่น นิสัยส่วนตัวของพระมหานภารัตน์ก็เป็นเหมือนในคลิปที่เป็นข่าว ช่วงที่อยู่ในพื้นที่ทางเจ้าคณะอำเภอก็เคยตักเตือนเรื่องพฤติกรรมมาแล้ว โดยล่าสุด พระครูอดุลชัย เจ้าคณะอำเภอลำทะเมนชัย ได้ทำหนังสือแจ้งถึง พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ลงวันที่ 13 พฤษถาคม 2565  เรื่อง แจ้งการขับ พระมหานภารัตน์ นันทโก ออกจากสังกัดวัดจันทนไชยศรี และให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุ เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏมีความผิดชัดเจน

ด้าน นายวินัย บุณยรัชตปรีชา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาลาจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามหาตัวหลวงเจ๊ แต่ยังไม่พบตัวว่าอยู่ในพื้นที่จ.นครราชสีมาแต่อย่างใด จากที่เห็นจากคลิปภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องถือว่าหลวงเจ๊มีความผิดถึงขั้นปาราชิก ซึ่งการปาราชิกไม่จำเป็นต้องจับสึก เพราะถือว่าขาดจากความเป็นพระโดยพฤติกรรมอยู่แล้ว จะไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ ส่วนความผิดทางอาญาผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดได้เลย

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ คณะสงฆ์ในพื้นที่ยังไม่พบตัวหลวงเจ๊ และจากการตรวจสอบข้อมูล หลวงเจ๊ สังกัดอยู่ที่วัดจันทนไชยศรี ทางวัดจันทรไชยศรีได้ประกาศให้หลวงเจ๊พ้นจากสังกัดของวัดแล้ว และทางคณะสงฆ์อำเภอลำทะเมนชัย โดยเจ้าคณะอำเภอได้มีมติสงฆ์ให้พระมหานภารัตน์ ขาดจากความเป็นพระภิกษุ นับตั้งแต่วันที่มีมติของคณะสงฆ์ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา หากใครพบเห็นหลวงเจ๊สวมใส่จีวร ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการเอาผิดฐานแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ได้ทันที

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบทราบข้อมูลว่า หลังจากหลวงเจ๊ได้บวชพระที่ อ.ลำทะเมนชัย ก็ออกเดินทางไปอยู่ที่จ.ขอนแก่น นานๆ ครั้งถึงจะเดินทางกลับมาที่จ.นครราชสีมาเพื่อเยี่ยมญาติพี่น้องบ้าง แต่ล่าสุดจากการสอบถามญาติพี่น้องทราบว่าหลวงเจ๊ไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านนานหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่เป็นข่าวดัง ก็ไม่มีใครพบตัว ไม่สามารถติดต่อได้เลย ซึ่งเมื่อมติสงฆ์ให้ขาดจากความเป็นพระแล้ว หากใครพบเห็นหลวงเจ๊สวมใส่จีวร ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการเอาผิดฐานแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ได้ทันที