posttoday

ตลาดค่ายเชลยศึกสู้ปมจับร้านขายเหล้าให้เด็กอายุต่ำ20

14 พฤษภาคม 2565

กาญจนบุรี-ทนายความตลาดค่ายเชลยศึก ออกแถลงการณ์ แจ้งสื่อนำเสนอข่าวสองด้านจ่อฟ้องแพ่ง-อาญา ปมฝ่ายปกครองจับร้านเหล้าขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ให้เยาวชน

ตลาดค่ายเชลยศึก แถลงการณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ถึงสื่อมวลชนทุกแขนง ลงนามโดย นายกนกพิธาณ เกิดมี ทนายความผู้รับมอบอำนาจ /บริษัท กฎหมายฐิตธรรม จำกัด เนื้อหาระบุว่า

“แถลงการณ์ ฉบับที่ 2 เลขที่ กจ.002/2565 วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 เรียน พี่น้องสื่อสารมวลชนทุกแขนง ด้วยบริษัท วิชั่น อินสเป็คเตอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้ได้รับสิทธิ์ในการเช่าพื้นที่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณที่หยุดรถเขาปูน เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาและบริหารที่ดินในเชิงธุรกิจ และได้รับอนุญาตให้เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ เมื่อวันที่ 1มีนาคม 2562 ตามหนังสือเลขที่ รฟ.1/248/2562 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2562 โดยนายประยูร สุขดำเนิน รองผู้อำนวยการฝ่ายด้านการบริหาร รักษาการแทนผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ปฏิบัติการแทนผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัทวิชั่นฯ ได้เข้าใช้พื้นที่โดยสำรวจพื้นที่ ปรับปรุง และพัฒนาพื้นที่จากที่ดินบางส่วนถูกบุกรุก บางส่วนรกร้าง เป็นแหล่งสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม จนสามารถพัฒนาและปรับปรุงและทำเป็นพื้นที่ที่มีประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย โดยลงทุนด้านสาธารณูปการเข้าพื้นที่ดังกล่าวครบสมบูรณ์ และได้กระทำการอย่างเปิดเผย การดำเนินการของบริษัทวิชั่นฯ เป็นการทำตามกรอบระเบียบวิธีการปฏิบัติกันระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย กับบริษัท วิชั่น อินสเป็คเตอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบพื้นที่ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ซึ่งทางบริษัทวิชั่นฯ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับผู้ประกอบการอื่นๆ และเช่นเดียวกับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย จึงได้ขอความอนุเคราะห์จากการรถไฟแห่งประเทศไทยขอให้กำหนดมาตรการความช่วยเหลือจากการได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVD-19) ดังกล่าว

บริษัทวิชั่นฯ ขอเรียนชี้แจงว่า มิได้กระทำการบุกรุกที่การรถไฟแห่งประเทศไทยตามที่ถูกกล่าวอ้าง อยู่ระหว่างการบริหารสัญญาระหว่างคู่สัญญาตามกระบวนการและขั้นตอนตามกฎหมายที่เป็นไปตามเหตุผล และความจำเป็นที่เกิดขึ้นระหว่างคู่สัญญา จึงขอเรียนยันยันว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวยังอยู่ในความครอบครองและอยู่ในความรับผิดชอบตามสิทธิ์ตามกฎหมายที่ได้รับมาจากการรถไฟฯถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

ที่มาของการจัดตั้งตลาดค่ายเชลยศึกเกิดขึ้นจากการรวมตัวของประชาชนชาวกาญจนบุรีในพื้นที่ หมู่ 4 ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และชาวบ้านบางส่วนที่ได้เคยใช้พื้นที่ดังกล่าวมาก่อนที่บริษัทวิชั่นๆ จะได้รับการอนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่ ซึ่งได้ประกอบอาชีพค้าขายเล็กน้อย มีได้มีรายได้เป็นหลักแหล่ง มีความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ในลักษณะหาเช้ากินค่ำ เมื่อบริษัทวิชั่นฯ เข้ามาทราบปัญหาต่างๆ ก่อนดำเนินการพัฒนาและปรุงปรุงพื้นที่ จึงมีการเจรจากันเพื่อหาข้อยุติเพื่อลดผลกระทบ และให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขโดยไม่มีข้อขัดแย้งหรือแตกความสามัคคี จึงสร้างพื้นที่ส่วนกลางขึ้นเพื่อจัดให้ประชาชนในพื้นที่เข้ามาค้าขายตามที่ตนถนัด มีลักษณะเป็นเพิงชั่วคราวสามารถกันร้อน กันฝนได้ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้และสร้างความเป็นอยู่ สร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยบริษัทวิชั่นฯ มิได้คิดค่าเช่าหรือค่าตอบแทนและแสวงหากำไรใดๆ จากประชาชนที่เข้ามาทำการค้าในบริเวณดังกล่าว อีกทั้ง บริษัทวิชั่นฯ ยังต้องรับภาระเรื่องค่าใช้จ่าย เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าจ้างซาวบ้านในพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัย สำหรับการปกป้องดูแลพื้นที่ให้เกิดความเรียบร้อยและสงบสุขมาโดยตลอด ด้วยอาศัยความมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ โดยยึดถือหลักการ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐในพื้นที่มาโดยตลอด ที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับคำแนะนำ หรือได้รับการตักเตือนใดๆจากหน่วยงานในพื้นที่ จึงเห็นว่าไม่มีเหตุ หรือแรงจูงใจที่พี่น้องประชาชนคนพื้นที่จะมีความตั้งใจจะกระทำผิดต่อกฎหมาย

บริษัทวิชั่น ฯ ก็มิได้กระทำหรือสนับสนุนให้มีการกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใดโดยสถานภาพของพื้นที่ดังกล่าวได้รับอนุญาตเป็นตลาดเอกชนโดยถูกต้องตามกฎหมายและด้วยความร่วมมือร่วมใจกับคนในพื้นที่ช่วยเหลือกันได้ดำเนินการสร้างสรรค์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวจนเป็นสถานที่สำคัญของการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่จะต้องแวะมาเยี่ยมเยือนตลาดค่ายเชลยศึกแห่งนี้ และแม้ว่าจะมีเหตุการณ์ในช่วงวิกฤติในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทำให้เกิดผลกระทบอย่างมาก ตลาดแห่งนี้ก็ยังคงยืนหยัด ร่วมแรงร่วมใจต่อสู้ ช่วยเหลือจนผ่านพ้นเหตุการณ์ดังกล่าวมาได้ และอยู่ในช่วงที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการมากขึ้น

แต่ปรากฏเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 เหตุเกิดเวลาประมาณ 23.15 น. มีกลุ่มบุคคลที่กล่าวอ้างว่าเป็นฝ่ายปฏิบัติการพิเศษส่วนกลางของกรมการปกครองสนธิกำลังกับฝ่ายปกครองจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีหน่วยราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมปิดล้อม ตรวจค้น จับกุมนักท่องเที่ยว กลุ่มบุคคลที่ใช้บริการในตลาดค่ายเชลยศึก สั่งให้ทุกคนห้ามออกจากพื้นที่ ในลักษณะกักขังหน่วงเหนี่ยวกลุ่มผู้ประกอบการ และประชาซนที่มาใช้บริการ รวมถึงการปิดพื้นที่พร้อมไล่คนที่มาใช้บริการในพื้นที่ออกจากตลาดจนเวลาล่วงเลยไปจนถึงเที่ยงคืนของวันดังกล่าว โดยกล่าวอ้างว่าขอตรวจสอบบัตรประชาชนของบุคคลทุกรายในตลาดแห่งนี้ ซึ่งทำให้เกิดความชุลมุน วุ่นวาย และได้ปิดล้อมจับกุมกลุ่มบุคคลบางส่วนเพื่อนำตัวไปสอบสวน รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของพื้นที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของตลาดค่ายเชลยศึกด้วย ซึ่งในกลุ่มบุคคลที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าถูกจับกุมได้ซัดทอดว่าได้ซื้อสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในตลาดนั้น ซึ่งบริษัทวิชั่นๆ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว แต่ยังมีข้อสงสัยหลายประการ ซึ่งต้องมีการพิสูจน์และแสวงหาข้อเท็จจริง โดยจะต้องพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม และปัจจุบันยังมิได้ข้อยุติตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่ของตลาดค่ายเชลยศึกได้ถูกกลุ่มคนที่กล่าวอ้างว่าเป็นฝ่ายปกครอง ควบคุมตัว กักขัง หน่วงเหนี่ยวโดยไม่ได้ให้โอกาสได้พบหรือติดต่อกับทนายความ หรือบุคคลที่ไว้วางใจ ณ สถานที่ทำการนอกเวลาราชการ ตั้งแต่เวลา 01.00 น. จนถึงเวลา 11.00 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 ซึ่งเป็นระยะเวลากว่าสิบชั่วโมงอันเกินสมควร โดยพฤติการณ์ดังกล่าวฝ่ายกฎหมายของบริษัทวิชั่นฯ จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าได้มีการดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนตามกฎหมายหรือไม่อย่างไรต่อไป

ขอโอกาสที่จะได้โต้แย้งแสดงหลักฐานในกระบวนการยุติธรรม ในชั้นศาลอันเป็นสถาบันที่ดำรงความยุติธรรมและน่าเชื่อถือตามกระบวนการและขั้นตอนตามกฎหมายที่ถูกต้อง จึงขอความกรุณาในการเสนอข่าวอีกด้านที่ได้ขี้แจงในข้างต้นเพื่อให้ประชาชนคนทั่วไป และผู้ที่จะมาท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี จะได้รับทราบข้อมูลที่เป็นธรรมกับบริษัทวิชั่นฯ และผู้ค้าในตลาดค่ายเชลยศึก ข้อมูลที่ปรากฏในขณะนี้เป็นการเสนอข่าวในด้านเดียว จากแหล่งข้อมูลซึ่งเป็นผู้ไม่ประสงค์ดีกับบริษัทวิชั่นฯ มีลักษณะจงใจ ใส่ร้าย ใส่ความและ บิดเบือนข้อเท็จจริง มุ่งกล่าวเท็จทำให้บริษัทวิชั่นฯ เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง กระทบต่อการประกอบธุรกิจและชื่อเสียงของบริษัทวิชั่นฯ ซึ่งอาจจะไม่สามารถแก้ไขและเยียวยาได้ในภายหน้า

จึงกราบขอความกรุณาสื่อสานมวลซนได้โปรดให้ความยุติธรรม โดยเมื่อได้มีการพิสูจน์ความจริงตามกระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นไปตามกระบวนการที่ชอบด้วยกฎหมายในศาลยุติธรรมจนเป็นผลแห่งคดีถึงที่สุด และมีข้อเท็จจริงยุติแล้วจึงนำเสนอข้อมูลที่เป็นความจริงที่เกิดขึ้นต่อประชาชนต่อไป จักขอบพระคุณยิ่ง

ปัจจุบันบริษัทวิชั่นฯ พ่อค้า แม่ค้า ชุมชน รวมถึงคนเมืองกาญจน์ตกเป็นจำเลยสังคม เสียชื่อเสียง เกิดความเสียหายอย่างมาก จึงขอความอนุเคราะห์ให้พี่น้องสื่อมวลชนให้ความเมตตาและให้ความเป็นธรรมในการเสนอข่าวดังกล่าวด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง

ส่วนกรณีที่มีบุคคลใดนำข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์โดยนำไปเผยแพร่ในลักษณะบิดเบือนกล่าวเท็จ เจตนาจะสร้างความเสียหาย ใส่ร้าย ใส่ความ หรือนำข้อมูลไปเผยแพร่ต่อสื่อสารมวลซนต่างๆ ที่มีลักษณะจะให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่บริษัทวิชั่นฯ และผู้ค้าในตลาดค่ายเชลยศึก รวมทั้งทำให้เสียชื่อเสียงและก่อให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของจังหวัดกาญจนบุรี ฝ่ายกฎหมายและทีมงานทนายความซึ่งได้รับมอบอำนาจจากบริษัทวิชั่นฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และทางอาญาต่อผู้ที่กระทำการดังกล่าว รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุดต่อไป