น้ำท่วมฉับพลันสุราษฎร์เดือดร้อน 328 ครัวเรือน 1,065 ราย
ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานีสั่งเร่งเปิดเส้นทางนำสิ่งของเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน ขณะที่ทหารพัฒนาเชื่อมคอสะพานขาดให้ชาวบ้านข้ามได้แล้ว
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม หลังเกิดฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 3 อำเภอ จ.สุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย อ.วิภาวดี,อ.ไชยาและ อ.ท่าฉาง ล่าสุดยังมีฝนตกเล็กน้อยปริมาณน้ำฝนสะสม 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามากที่สุดที่ อบต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง วัดได้ 82 มิลลิเมตร แต่ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 3 ตำบล 10 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 328 ครัวเรือน 1,065 ราย เสียชีวิต 1 รายเป็นชาวพม่าที่สูญหาย เนื่องจากถูกกระแสน้ำพัดขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ข้ามหลังท่อระบายน้ำที่ ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉางชำรุด พบศพแล้วเมื่อวันที่ 7 พ.ค.โดยมีบ้านเรือนพังเสียหายทั้งหลัง 11 หลัง เสียหายบางส่วน 29 หลัง ถนนในหมู่บ้านชำรุดเสียหาย 25 สาย สะพาน-คอสะพานชำรุด 18 แห่ง ท่อระบายน้ำ 1 แห่ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ซ่อมแซมถนนและคอสะพานให้รถยนต์สัญจรไป-มา ได้แล้ว
สำหรับ พื้นที่ได้ผลกระทบมากที่สุด อ.วิภาวดี ที่ ต.ตะกุกเหนือ หมู่ที่ 1,7,8,9,11,13,15 มีบ้านพังเสียหายทั้งหลัง 4 หลัง เสียหายบางส่วน 20 หลัง ราษฎรได้รับผลกระทบ 250 ครัวเรือน 750 คน รองมา อ.ไชยา ที่ ต.ปากหมาก หมู่ที่ 7 มีบ้าน พังเสียหายทั้งหลัง 7 หลัง เสียหายบางส่วน 8 หลัง ราษฎรได้รับผลกระทบ 45 ครัวเรือน 180 คนและ อ.ท่าฉาง ที่ ต.ปากฉลุย หมู่ที่ 4,5 มีบ้านเรือนพังเสียหายบางส่วน 1 หลัง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ราษฎรได้รับผลกระทบ 33 ครัวเรือน 135 คน
ด้าน นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมนายจำนง สวัสดิ์วงศ์ ปภ.จ.สุราษฎร์ธานี และผู้บังคับการกองบิน 7 ลงพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี และหมู่ที่ 7 ต.ปากหมาก อ.ไชยา เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย โดยนายวิชวุทย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ความช่วยเหลือราษฎร และส่งกำลังทหาร มทบ.45 นพค.46 กองบิน 7 ตำรวจ เจ้าหน้าที่ศูนย์ ปภ.เขต.11 แขวงทางหลวงสุราษฎร์ธานีที่ 1 โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี อบจ.สุราษฎร์ธานี เข้าดำเนินการเปิดเส้นทางที่มีขยะ ต้นไม้และเศษไม้ที่ถูกระแสน้ำพัดมาให้สามารถนำสิ่งของเข้าไปช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ได้ และความเสียหายที่เกิดขึ้น
ต่อมา เจ้าหน้าที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย(ศบภ.) หน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 46 (นพค.46) สำนักพัฒนาภาค 4 (สนภ.4) นำกำลังพล จำนวน 10 นาย พร้อมรถตรวจการณ์ จำนวน 1 คัน, รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก จำนวน 1 คัน และ รถสะพานเครื่องหนุนมั่น จำนวน 1 คัน เข้าให้การช่วยเหลือตามการร้องขอของ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสารณภัย จ.สุราษฎร์ธานี โดยสนับสนุนรถสะพาน เครื่องหนุนมั่น ดำเนินการเชื่อมต่อ คอสะพาน ระหว่างหมู่ 3 บ้านท่าไม้แดง ต.ปากหมาก อ.ไชยา และ บ้านปากฉลุย อ.ท่าฉาง ที่ถูกตัดขาดยาวประมาณ 10 เมตร ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในการสัญจรไปมาการขนส่งสินค้าทางการเกษตร ซึ่งได้วางสะพานเครื่องหนุนมั่น ให้สามารถสัญจรไป-มาใช้การได้เรียบร้อยแล้ว ใ
