posttoday

ตำรวจพบข้อมูลผู้ก่อเหตุสังหารชาวแคนาดาที่เกาะภูเก็ตเดินทางออกจากไทย

11 กุมภาพันธ์ 2565

ภูเก็ต-ตำรวจได้ข้อมูล2ผู้ต้องสงสัยคดีสังหารชาวแคนาดา พบข้อมูลเดินทางออกจากไทยแล้ว เตรียมออกหมายจับและประสานต่างประเทศนำตัวกลับมาดำเนินคดี

เมื่อวันที่ 11กุมภาพันธ์ 2565 กรณีนายซิง แมนดีฟ Mr.Singn Mandeep สัญชาติแคนาดา ถูกคนร้ายสองคน ใช้อาวุธปืน ยิงเสียชีวิต ทั่วทั้งร่างกาย พบปลอกกระสุนจำนวนมากตกในที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าวิลล่า A โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ตำบลราไวย์ เหตุเกิด เมื่อวันที่ 4 ก.พ.65 เวลา 22.30น.

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด มีการประสานงานกับตำรวจของทีมสืบสวนสอบสวนได้รายชื่อผู้ต้องสงสัย 2 คน เป็นชาวแคนาดา และเคย เป็นทหาร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานนำสู่การออกหมายจับได้ภายใน1-2 วันนี้ โดยทั้งคู่ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วได้ประสานกับตำรวจต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันประกอบการสืบสวนสอบสวนขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่สั่งการ ผู้ที่ให้การสนับสนุน หรือเข้าไปมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ทุกราย ถ้าอยู่ต่างประเทศต้องขอให้นำตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย

ขณะเดียวกัน ทีมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนแบ่งการทำงาน 20 ชุด เร่งตรวจสอบประวัติผู้เสียชีวิต ประวัติการทำผิดกฎหมาย ปมการสังหาร ติดตามข้อมูลจากกล้องวงจรปิดทุกจุดในบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่โดย ชุดEODของตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ เกิดเหตุ พบอาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก อยู่ในทะเลตรงข้ามบ้านร้าง ใกล้บ้านพักผู้เสียชีวิต นำอาวุธปืนไปตรวจสอบ

"อาวุธปืนที่พบ ยี่ห้อ CZ อีกกระบอกเป็นวอลเทอร์ ทั้งสองกระบอกทราบชื่อผู้ครอบครองตามหลักฐานทางราชการหมดแล้ว ขอเวลาในการตรวจสอบว่ามีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร ในเรื่องนี้ อาวุธปืนอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเขาได้มาอย่างไร เราพบเลขทะเบียนผู้ครอบครองแล้วตัองตรวจสอบว่าอยู่ในมือคนร้ายได้อย่างไร คนที่เกี่ยวข้องจะมีสีหรือไม่มีสีถ้าเกี่ยวข้องเขาก็มีความผิด" พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว

วันนี้ (11 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ทำการค้นหาวัตถุพยานเพิ่ม โดยใช้เครื่องตรวจหาโลหะวัตถุระเบิดต่างๆพร้อมจำลองสถานการณ์ว่าหลังเกิดเหตุแล้วคนร้ายจะทำอะไร อาจมีทิ้งของลงในทะเล ซึ่งได้พบเจออาวุธปืนในทะเลแล้ว และจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้อง มีการแบ่งหน้าที่กันทำงานเพื่อเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว

ส่วนศพผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้เก็บศพไว้ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ทางกองการต่างประเทศ ของ สตช.ได้ประสานกับญาติผู้เสียชีวิตได้รับการติดต่อว่าจะเดินทางมาในวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ นี้ เพื่อรับศพกลับไปประเทศอินเดีย ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนในวันและเวลาที่จะเข้ามาเนื่องจากต้องเข้ามาทางระบบขั้นตอนภูเก็ตแซนด์บอกซ์