posttoday

ตรวจATKผู้ต้องขังเรือนจำพิษณุโลก พบผลบวก 1,559 ราย

13 ธันวาคม 2564

โรงพยาบาลวังทองเข้าไปตรวจATK ผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก 2,190 ราย พบผลเป็นบวก 1,559 ราย ทำการแยกโซนรักษาอยู่ภายในเรือนจำ หากอาการหนักจะออกมารักษาภายนอก

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 64 โรงพยาบาลวังทอง จ.พิษณุโลก ร่วมกับเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้เข้าไป ATK หาเชื้อโควิดใน เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 2,190 ราย ปรากฏว่า มีผลเป็นบวก จำนวน 1,559 ราย

นายจักริน สมบูรณ์จันทร์ นายแพทย์ชำนาญการ รักษาการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวังทอง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจหาเชื้อโควิดในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก พบมีผู้ต้องขังมีผลเป็นบวกจำนวนพันกว่าราย โดยเบื้องต้นนั้นจะยังไม่ทำการตรวจ RT-PCR แต่จะแยกโซนผู้ต้องขังไว้ และทำการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ แก่ผู้ต้องขังแล้ว ส่วนผู้ป่วยที่เป็นสีเหลือง ก็จะแยกออกมารักษาที่ โรงพยาบาลวังทอง และหากอาการหนักก็จะส่งต่อรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ส่วนผู้ต้องขังที่ตรวจผลเป็นลบนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็จะไปทำการตรวจอีกครั้ง เพื่อเป็นการยืนยันว่าไม่ติดเชื้อโควิด

เบื้องต้นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิษณุโลก มีข้อสั่งการในการทำแผนเผชิญเหตุ ดังนี้ 1. ทีมปฏิบัติการ Operation และทีม Logistics ของ สสจ.จังหวัด นำโดยนายแพทย์รัฐภูมิ ชามพูนท รองนายแพทย์สาธารณสุขฯ ลงตรวจสอบพื้นที่เพื่อทำการสนับสนุนกำลังพลและอุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกับทางพื้นที่โรงพยาบาลวังทองและสาธารณสุขอำเภอ โดยเร่งในการควบคุมและดูแลรักษาโรคให้อยู่ในความเรียบร้อย โดยให้ทำการประสานกับทีมต่างๆของจังหวัดและหน่วยงานต่างๆ เพื่อบูรณาการร่วมกัน ในการดูแลรักษาผู้ต้องขังในเรือนจำให้มีความปลอดภัย

2.จัดการแถลงข่าวในวันจันทร์ ที่ 13 ธ.ค.2564 เวลา 16.00 น. ที่ ห้องประชุมบุณยวงศ์วิโรจน์ ชั้น 5 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก โดย นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัด , นายแพทย์ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก , นายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผอ.รพ.พุทธชินราช และผู้บัญชาการเรือนจังหวัด พล.เป็นผู้ร่วมแถลงฯ

เบื้องต้น สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้รับการอนุมัติจากปลัดกระทรวง สธ. ในการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ และชุดตรวจ ATK มาเพิ่มสำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำ เป็นที่เรียบร้อย และ ในวันอาทิตย์ที่ 12 และวันจันทร์ที่ 13 ธ.ค. 2564 ระดมตรวจ ATK ใน ผู้ต้องขังเรือนจำทั้งหมดจำนวนประมาณ 2,500 คนเพื่อแยกกลุ่ม ATK เป็นบวกและเป็นลบ และทำการคัดกรองออกซิเจนปลายนิ้วในกลุ่มที่ ATK เป็นบวกให้ทานยาทันทีทุกรายที่ผลเป็นบวก แยกกลุ่มสีแดงออกมาก่อนโดย ใช้การวัดออกซิเจนปลายนิ้ว เพื่อแยกออกมารักษาในโรงพยาบาล ป้องกันการเสียชีวิตและทรุดลงในเรือนจำ