posttoday

ไม่หวั่นพายุ!เขื่อนวชิราลงกรณยังรับน้ำได้อีกมาก

11 ตุลาคม 2564

กาญจนบุรี -ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณให้ความมั่นใจยังสามารถรับน้ำได้อีกมากกว่า18 %ถึงจะเต็มจึงไม่ห่วงแม้จะมีมรสุมเข้ามา ย้ำตัวเขื่อนมีความมั่นคงรับแผ่นดินไหวได้ถึง 7 ริกเตอร์

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. นายอมร แก่นสารี ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันเขื่อนวชิราลงกรณมีปริมาณน้ำประมาณ 7,232 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 81.63 % ของความจุอ่าง สามารถรับน้ำได้ 1,627 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 18.37% โดยระหว่างวันที่ 11-17 ต.ค. มีแผนการระบายน้ำเฉลี่ย 9 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64 จนถึงปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างประมาณ 5,214 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ จากแผนระบายน้ำในฤดูฝนปี 2564 (ก.ค.-ธ.ค.) ของกรมชลประทาน จัดสรรการระบายน้ำในลุ่มน้ำแม่กลอง 2,800 ล้าน ลบ.ม. โดย เขื่อนวชิราลงกรณ มีแผนระบายน้ำ 1,700 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำในช่วงฤดูฝนไปแล้ว 959 ล้าน ลบ.ม. (1 ก.ค.- 10 ต.ค. 64) โดยมีการติดตามปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำทุกวัน รวมทั้งติดตามระบบโทรมาตรลุ่มน้ำแม่กลอง ลำน้ำแควน้อยเป็นรายชั่วโมง เพื่อปรับแผนระบายน้ำให้เหมาะสมกับทันต่อสถานการณ์ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ที่อยู่ท้ายเขื่อนฯ  

นายอมร กล่าวว่า แม้ว่าจะมีฝนตกเพิ่มอีกเป็นผลกระทบจากมรสุมแต่เป็นช่วงปลายฤดูฝนแล้ว และในปัจจุบันเขื่อนยังรองรับปริมาณน้ำได้อีกมาก ประมาณ 1,600 ล้านลูกบาศก์เมตร ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจ เขื่อนวชิราลงกรณมีการติดตามปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำทุกวัน เพื่อปรับแผนระบายน้ำให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและปริมาณน้ำที่ไหลเข้ารายวัน ส่วนความมั่นคงปลอดภัยของเขื่อนมีการออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหว ณ ตัวเขื่อนถึง 7 ริกเตอร์ เหตุการณ์ที่ผ่านมาจึงไม่ส่งผลกระทบต่อเขื่อนอย่างแน่นอน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขื่อนวชิราลงกรณ เคยต้องระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำฉุกเฉินสปิลเวย์มาแล้วด้วยกัน 4 ครั้ง คือ ในปี 2537 ปี 2540 ปี 2545 และล่าสุดเมื่อปี 2561 เนื่องจากน้ำในอ่างเก็บน้ำมีปริมาณมากกว่า 80% หรือสูงกว่าระดับ Upper Rule Cuver จึงต้องพร่องน้ำให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ควบคุม