posttoday

กรมชลฯ เตรียมแผนจัดการน้ำเมืองนครศรีฯจากปี 63 สู่ 64

08 ตุลาคม 2564

อธิบดีกรมชลประทานย้ำนายกฯห่วงใยคนนครศรีฯเตรียมแผนจัดการน้ำถอดบทเรียนจากปี63มาใช้รับมือแก้ปัญหาน้ำท่วม พร้อมมีแผนระยะยาวรับมือ

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคใต้ โดยเฉพาะตัวเมืองนครศรีธรรมราชที่เป็นจุดยุทธศาสตร์และพื้นที่ทางเศรษฐกิจ หากเกิดฝนตกหนัก ปริมาณน้ำจากเทือกเขาหลวงจะไหลกระจายลงสู่ตัวเมืองผ่านทางคลองหลัก เช่น คลองท่าดี คลองคูพาย คลองสวนหลวง คลองป่าเหล้า คลองนครน้อย และคลองท่าซัก ก่อนที่จะไหลออกสู่ทะเล 

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ถอดบทเรียนจากสถานการณ์อุทกภัยปี 2563 วางแนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช ปี 2564 ในระยะเร่งด่วน ด้วยการกำจัดวัชพืชและขุดลอกคลองผ่านตัวเมืองนครศรีธรรมราชทั้ง 5 สาย ได้แก่ คลองคูพาย คลองสวนหลวง คลองป่าเหล้า คลองนครน้อย และคลองท่าซัก พร้อมจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ อาทิ เครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำ เป็นต้น รวม 211 เครื่อง รวมถึงการดำเนินโครงการอาคารป้องกันตลิ่งคลองคูพาย ระยะที่ 1 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลองปากนคร เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช 

สำหรับ ในระยะยาว ได้วางแผนดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งลักษณะของโครงการจะเป็นการขุดคลองระบายน้ำ 3 สาย ความยาวประมาณ 18.64 กิโลเมตร โดยสายที่ 1 สามารถระบายน้ำได้ในอัตรา 650 ลบ.ม./วินาที สายที่ 2 ระบายน้ำได้ในอัตรา 195 ลบ.ม./วินาที และสายที่ 3 ระบายน้ำได้ในอัตรา 750 ลบ.ม./วินาที พร้อมปรับปรุงคลองวังวัวและคลองหัวตรุด รวมถึงการก่อสร้างประตูระบายน้ำ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำ จำนวน 7 แห่ง โดยมีระยะเวลาโครงการ 6 ปี (พ.ศ.2561 - 2566) 

นอกจากนี้ กรมชลประทาน ได้ดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำบางไทร 2 พร้อมสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า อำเภอปากพนัง ปัจจุบันดำเนินการเสร็จแล้ว ซึ่งจะช่วยระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำของตำบลเกาะทวดและตำบลป่าระกำ อำเภอปากพนัง ออกสู่แม่น้ำปากพนังลงสู่ทะเลอ่าวไทยตามลำดับ และพิจารณาปรับปรุงอาคารชลประทาน บริเวณประตูระบายน้ำเปี๊ยะ อำเภอปากพนัง ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี โดยการปรับปรุงขยายประตูระบายน้ำให้สามารถระบายน้ำได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ปลูกส้มโอทับทิมสยาม ก่อนระบายออกสู่ทะเล จากเดิมที่มีประตูระบายน้ำเพียง 1 ช่อง ระบายน้ำได้ในอัตรา 20 ลบ.ม./วินาที ได้ออกแบบใหม่ให้มีประตูระบายน้ำ 2 ช่อง พร้อมสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าจำนวน 2 เครื่อง ซึ่งจะทำให้ระบายน้ำเพิ่มได้ในอัตรา 50 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันดำเนินการออกแบบเสร็จแล้ว และจะดำเนินการของบการก่อสร้างในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ต่อไป