9 จังหวัดอ่วมเจอฝนถล่มบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 316 ครอบครัว

เมื่อวันที่ 30 ส.ค.กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 27 - 30 ส.ค. เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากใน 9 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร นครราชสีมา ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สระแก้ว สิงห์บุรี และสมุทรปราการ รวม 20 อำเภอ 47 ตำบล 128 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 316 ครัวเรือน ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังเล็กน้อยในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือ

ทั้งนี้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากผลงาจหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้เกิดฝนตกหนัก ตั้งแต่วันที่ 27 - 30 ส.ค. ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ใน 9 จังหวัดบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 316 ครัวเรือนไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยกำแพงเพชร น้ำท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอขาณุวรลักษบุรี และอำเภอโกสัมพีนคร รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 5 ครัวเรือน

สำหรับ นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ปราจีนบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาดี และอำเภอกบินทร์บุรี รวม 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 78 ครัวเรือน ชลบุรี น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบางละมุง รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ระยอง น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองระยอง และอำเภอวังจันทร์ รวม 5 ตำบล 10 หมู่บ้าน จันทบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองจันทบุรี อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอมะขาม อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง และอำเภอนายายอาม รวม 26 ตำบล 83 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 233 ครัวเรือน สระแก้ว น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเขาฉกรรจ์ รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน สิงห์บุรี น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอค่ายบางระจัน รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน และสมุทรปราการ น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ และอำเภอบางเสาธง 8 ตำบล 21 หมู่บ้าน ปัจจุบันภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ

อย่างไรก็ตาม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้าน เรือนเป็นวัสดุก่อสร้างหรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสมต่อไป สำหรับประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และ สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง