จนท.ยืนยันคลัสเตอร์มัรกัสยะลาที่นครศรีฯเป็นสายพันธ์เบต้า-แอฟริกาใต้

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 64 อาสาสมัครสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่อนามัยกองอนามัยและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองปากพูน หมู่ 9 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ยังคงปิดทางเข้าออกชุมชนมัสยิดนารุลนาฮีม หรือมัสยิดปากพูนใต้ เพื่อป้องกันการเข้าออกชุมชน หลังพบการติดเชื้อของนักเรียนจากศูนย์ฮาฟิศมัรกัสยะลา คนในชุมชนจึงกักตัวเองอยู่ในพื้นที่ และห้ามผู้อยู่นอกชุมชนเข้ามาในพื้นที่อย่างเด็ดขาด ขณะบรรยากาศบ้านเรือนชาวบ้านได้ปิดเงียบ เช่นเดียวกับมัสยิดที่ปิดการประกอบศาสนกิจทุกวันจนถึงวันที่ 25 มิ.ย.64

นายณรงค์ อนันทขาล อิหม่ามมัสยิดดารุลนาฮีม เปิดเผยว่า ช่วงปิดชุมชนแรกๆ นั้นยอมรับว่าชาวบ้านในชุมชนรู้สึกเครียด แต่เมื่อเข้าใจสถานการณ์ ชาวบ้านในชุมชนให้ความร่วมมือและยอมรับกับสภาพที่เกิดขึ้นและขณะนี้เริ่มดีขึ้นมากแล้ว เราต้องให้คอเต็ปบิหล่านที่คุมมัสยิดทำความเข้าใจกับชาวบ้าน นอกจากนั้นการพบเชื้อกลายพันธ์ที่มากับนักเรียนจากยะลาเป็นเรื่องน่าตกใจ แต่ยินดีปฏิบัติตามมาตรการเพื่อความปลอดภัยยินขยายเวลากักตัวตามการกำหนดของการควบคุมโรคพร้อมให้ความร่วมมือ

ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราชรายงานว่า ได้มีการแจ้งผลการตรวจพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 จากตัวอย่างนักเรียนจากศูนย์ฮาฟิศมัรกัสยะลา ที่ติดเชื้อใน จ.นครศรีธรรมราช ทั้ง 8 ราย เป็นเชื้อสายพันธ์เบต้า-แอฟริกาใต้ และได้นำตัวอย่างส่งตรวจซ้ำที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อความถูกต้องตรงกัน ซึ่งการพบเชื้อเบต้า-แอฟริกาใต้ ใน จ.นครศรีธรรมราช ถือเป็นการพบครั้งแรกจากกลุ่มนักเรียนจากภาคใต้ตอนล่าง จึงได้ออกแนวทางให้ผู้ที่เดินทางจาก 4 จังหวัดภาคใต้ มา จ.นครศรีธรรมราช ต้องทำการกักตัว 21 วัน

ทั้งนี้เชื้อเบต้า-แอฟริกาใต้นั้นมีระยะเวลาในการฟักตัวยาวนานมากขึ้น ตรวจพบในวันที่ 14-15 ของการกักตัว จึงมีการเร่งค้นหาคนที่เดินทางมาจากพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างอย่างเร่งด่วน ซึ่งยังมีอีก 5 คนที่เดินทางมาแต่ไม่ได้แจ้ง รวม 11 คนก่อนรวม 16 คน ที่กระจายอยู่อยู่ใน อ.เมือง อ.ท่าศาลา อ.พรหมคีรี และ อ.หัวไทร ทำให้มียอดรวมนักเรียนมัรกัสติดเชื้อ 8 ราย สัมผัสรับการแพร่เชื้อ 3 ราย พบคลัสเตอร์มัรกัสที่ จ.นครศรีธรรมราช รวม 11 ราย ส่วนคลัสเตอร์โรงงานทองคำเปลวยังพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง.