"โควิดเพชรบูรณ์"เสียชีวิตอีก 1 ราย จับตาคลัสเตอร์ อ.หล่มสัก ติดเชื้อแล้ว 7
เพชรบูรณ์-จับตาคลัสเตอร์ อ.หล่มสัก หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดรวม 7 ราย ล่าสุด พบ เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงวัย 60
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 64 น.พ.ชัยวัฒน์ ทองไหม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ของจ.เพชรบูรณ์ว่า ขณะนี้ก็ยังน่าเป็นห่วงและยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่กำลังจับตาคลัสเตอร์ใหม่ที่ อ.หล่มสักซึ่งมีผู้ติดเชื้อแล้วรวม 7 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นคนขับรถ อบต.ตาลเดี่ยว จากนั้นตรวจพบผู้เสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดพบติดเชื้อเพิ่มเติม และล่าสุดตรวจหาเชื้อเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงสัมผัสอีก 345 รายก็ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมพื้นที่ และให้ผู้เสี่ยงสัมผัสยังต้องกักตัวสังเกตอาการต่อไปจนครบ 14 วัน
น.พ.ชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า ส่วนเคสที่อ.หล่มเก่าจากที่มีหญิงสูงอายุมีประวัติไปกทม.และอาจทำให้รับเชื้อและติดคนในครอบครัวซึ่งมีอาชีพขายเครป หลังมีการตรวจหาเขื้อเชิงรุก 257 คนไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติ่ม แต่ยังต้องให้กักตัวสังเกตอาการต่อไป ฉะนั้นไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม เคสอ.หล่มเก่าน่าจะเอาควบคุมสถานการณ์ได้"น.พ.ชัยวัฒน์กล่าว
น.พ.ชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อโควิดเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รายเป็นรายที่ 4 ของ จ.เพชรบูรณ์ เป็นหญิงสูงอายุวัย 60 ปี อยู่ที่หมู่ 7 ต.วังหิน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ สาเหตุเชื้อลงปอดและมีโรคประจำตัวทำให้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เริ่มป่วยตั้งแต่ช่วงปลายเม.ย.มีอาการเบื่ออาหาร ไอแห้งๆมีเสมหะ ปวดเมื่อยตัว ไปตรวจรพ.ที่จ.พิจิตรได้ยามากิน จากนั้นไปรักษาที่คลีนิกและกลับไปรักษาที่ รพ.เอกชน จ.พิจิตรอาการไม่ดีขึ้น วันที่ 2 พ.ค.จึงไปตรวจที่รพ.วังโป่งจนพบติดเชื้อและเข้านอนรักษา แต่ถือว่ารู้ตัวช้าและคิดว่าตัวเองไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง ทำให้ไม่แจ้งจนหมอไม่ได้ตรวจโควิดให้ พอวันที่ 2 พ.ค.อาการค่อนข้างเยอะเชื้อลงปอด จึงถูกส่งมาที่รพ.เพชรบูรณ์
"แต่จากการเป็นผู้สูงอายุและมีโรคเบาหวานเป็นโรคประจำตัว ทำให้อาการลุกลามจนอวัยวะอื่นๆล้มเหลว กระทั่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 4 ของจ.เพชรบูรณ์ นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีผู้ป่วยโควิดค่อนข้างหนักโดยอาการยังไม่พ้นวิกฤตอยู่ที่ รพ.เพชรบูรณ์อีก 2 ราย" น.พ.ชัยวัฒน์กล่าว