posttoday

แม่นอนกราบป้ายสถานีตำรวจ หลังลูกถูกข่มขืนแต่ไม่รู้ต้องตามคดีโรงพักไหน

14 มีนาคม 2564

แม่ชาวขอนแก่นนอนกราบป้ายสถานีตำรวจ หลังลูกถูกข่มขืนแล้วเข้าแจ้งความแต่ถูกโยนไปมาระหว่าง2โรงพักทำให้ไม่รู้จะตามคดีกับที่ไหน ด้านตำรวจชี้แจง ผู้เสียหายแจ้งความไว้แล้วตั้งแต่12มี.ค. ตำรวจกำลังติดตามทำคดี

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เครือข่ายโซเชียลมีเดียใน จ.ขอนแก่น ได้แชร์ภาพหญิงรายหนึ่งกำลังนอนกราบป้าย สภ.ชนบท พร้อมข้อความระบุว่า “ชาวบ้านในจังหวัดขอนแก่นขอความช่วยเหลือ หลังลูกสาวถูกชายลักพาตัวลูกสาวไปข่มขืนกระทำอนาจาร เข้าแจ้งความแต่ตำรวจไม่รับแจ้งโยนไปให้โรงพักที่อยู่ติดกัน พอไปถึงกลับถูกไล่ให้ไปแจ้งโรงพักที่เดินทางมา สุดท้ายทำอะไรไม่ได้นอนกราบป้ายโรงพักร่ำไห้ร้องขอความยุติธรรม”

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพบกับนางยุวะรีย์ งานหมั่น มารดาของ น.ส.เอ วัย 27 ปี พร้อมครอบครัว ซึ่งได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.ศราวุธ แดนสุข สว.(สอบสวน)สภ.ชนบท เพื่อแจ้งความว่า น.ส.เอ ถูกข่มขืน โดยทางตำรวจได้พยายามอธิบายให้กับทางแม่ลูกและญาติๆฟังถึงกรณีที่ไม่รับแจ้งความในพื้นที่ว่า สาเหตุที่ไม่รับแจ้งความนั้น เพราะผู้เสียหายได้ไปแจ้งความที่ สภ.แวงใหญ่ แล้ว เมื่อวันที่ 12 มี.ค.64 ซึ่ง สภ.ชนบท ได้มีการประสานไปยังทาง สภ.แวงใหญ่แล้ว โดยทาง สภ.แวงใหญ่ จะเป็นผู้ติดตามทำคดีดังกล่าวให้ ซึ่งทางตำรวจ สภ.ชนบทพยายามชี้แจงให้ญาติผู้เสียหายได้ทราบ

แม่นอนกราบป้ายสถานีตำรวจ หลังลูกถูกข่มขืนแต่ไม่รู้ต้องตามคดีโรงพักไหน

ด้านน้าสาวของ น.ส.เอ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ครอบครัวได้เข้าแจ้งความที่ สภ.แวงใหญ่ โดยทางตำรวจได้รับแจ้งความเอาไว้พร้อมกับลงบันทึกประจำวัน ซึ่งตำรวจได้ออกใบส่งตัวหลานสาวไปตรวจร่างกายว่าได้ถูกกระทำชำเราหรือไม่ ที่ โรงพยาบาลแวงใหญ่ โดยทาง โรงพยาบาลแวงใหญ่บอกว่าเป็นการข้ามเขตให้บริการ ต้องพาหลานไปตรวจที่ โรงพยาบาลชนบท หรือหากต้องการตรวจที่ โรงพยาบาล แวงใหญ่ ให้ไปแจ้งความที่ สภ.ชนบทเท่านั้นและจะได้ประสานงานกันง่ายขึ้น จึงได้พาหลานมาที่ สภ.ชนบท ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นไปอยู่ต่างประเทศนานจึงไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมายของเมืองไทยมากนัก พอมาที่ สภ.ชนบท ทางตำรวจก็แนะนำว่าให้พาตัวหลานไปตรวจร่างกายที่ โรงพยาบาลชนบท

ทั้งนี้ได้มอบเบอร์โทรศัพท์ของผู้ที่ก่อเหตุข่มขืนหลานให้กับตำรวจเอาไว้ด้วย ซึ่งตนมีคลิปคำรับสารภาพจากปากของผู้ก่อเหตุว่าร่วมหลับนอนกับหลานสาวจริง พอตรวจร่างกายหลานสาวเสร็จจึงได้เดินทางกลับมาที่ สภ.ชนบทอีกครั้ง เพื่อขอใบลงบันทึกประจำวัน แต่ตำรวจให้ไปที่ สภ.แวงใหญ่ ส่วนตัวไม่อยากมีเรื่องกับตำรวจ อยากจะขอลงบันทึกประจำวันเอาไว้เท่านั้น เพราะที่ สภ.แวงใหญ่ก็บอกว่ามันข้ามเขตไม่ได้ มารดาของผู้เสียหายจึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงไปนอนกราบป้ายโรงพักตามคลิปดังกล่าว

"อยากขอความยุติธรรมให้กับหลานสาวซึ่งมีอาการทางจิต และเป็นผู้เสียหาย ซึ่งตำรวจบอกว่าหลานสาวอายุ 27 ปีแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว ดำเนินคดีได้ต้องอายุ 15 ปีขึ้นไปและไม่เกิน 18 ปี อยากถามว่าหลานสาวอายุ 27 ปี และมีอาการทางจิตไม่สามารถดำเนินคดีหรือเอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้ใช่หรือไม่ สิ่งที่อยากรู้ก็มีเท่านี้ เพราะขนาดคนแก่โดนข่มขืนก็เห็นมีการดำเนินคดีให้ ตอนนี้ตนเองและครอบครัวก็ไม่รู้ว่าถ้ากลับไปที่โรงพักแวงใหญ่ทางตำรวจจะดำเนินคดีให้หรือไม่ หรือต้องกลับไปที่โรงพักชนบทอีก"น้าสาวของผู้เสียหายระบุ