posttoday

พบ"อ้วกวาฬ"เกยตื้นชายทะเลหัวไทรลือกระฉ่อนกิโลละเป็นล้าน

23 กุมภาพันธ์ 2564

นครศรีธรรมราช-อ้วกวาฬก้อนใหญ่หนักเกือบ 7 กิโลกรัมโผล่ชายทะเลหาดหัวไทร ชาวบ้านเก็บได้มั่นใจเป็นของจริง ลุ้นหาคนซื้อหวังรวยฉับพลัน 

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่หาดริมทะเล อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช นางศิริพร เนียมรินทร์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 381 หมู่ 8 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร ได้ไปพบ “อ้วกวาฬ”หรืออำพันทะเลขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 1 ฟุต ยาวประมาณ 2 ฟุต น้ำหนัก 6.9 กิโลกรัมเนื้อคล้ายไขมันจับตัวกันมีกลิ่นคาวเล็กน้อย

นางศิริพร กล่าวว่า เมื่อนำอ้วกวาฬไปลนไฟพบว่าละลายเป็นของเหลวเหมือนไขมัน แต่เมื่อเย็นตัวลงจะจับตัวเป็นก้อนแข็งอีกครั้ง ได้พบอ้วกวาฬในช่วงมรสุมที่มีคลื่นลมแรงเมื่อต้นเดือน ม.ค.2564 ที่ผ่านมาที่ริมหาดห่างจากบ้านประมาณ 500 เมตรถูกคลื่นซัดมาติดชายฝั่ง จึงเก็บกลับมาไว้ที่บ้าน คนเฒ่าคนแก่ที่เคยเห็นบอกว่าเป็นอ้วกวาฬหรืออำพันทะเลอย่างแน่นอน  ตอนที่พบมีกลิ่นคาวแต่หลังจากนำมาเก็บไว้กลิ่นคาวเริ่มหายไป

พบ"อ้วกวาฬ"เกยตื้นชายทะเลหัวไทรลือกระฉ่อนกิโลละเป็นล้าน

ทั้งนี้ ยังมีชาวบ้านที่อยู่ริมทะเลของอ.หัวไทรเคยพบก้อนวัตถุเช่นนี้มาแล้วหลายราย จึงอยากให้นักวิชาการ หรือผู้ที่มีความรู้มาทำการตรวจสอบวัตถุเหล่านี้ เบื้องต้นทราบว่า ยังไม่มีบริษัทผู้รับซื้อในประเทศไทย หากเป็นวัตถุมีค่าจริงและสามารถประสานให้ผู้ซื้อมาเสนอราคาซื้อกับชาวบ้านก็พร้อมที่จะขายให้จะสามารถช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่หาสิ่งของเหล่านี้ที่มากับคลื่นลมได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงฤดูมรสุมที่ผ่านมาได้มีการพบวัตถุชนิดเดียวกันหลายครั้งโดยเฉพาะชายทะเลในอ.หัวไทร ยาวไปจนถึงอ.ระโนด อ.สทิงพระ จ.สงขลา ต่างมีข้อมูลตรงกันว่าเป็นวัตถุที่มีค่าราคาแพงตกกิโลกรัมละกว่า 1 ล้านบาท แต่ในประเทศไทยยังไม่มีผู้รับซื้ออย่างเป็นทางการ

พบ"อ้วกวาฬ"เกยตื้นชายทะเลหัวไทรลือกระฉ่อนกิโลละเป็นล้าน

พบ"อ้วกวาฬ"เกยตื้นชายทะเลหัวไทรลือกระฉ่อนกิโลละเป็นล้าน

พบ"อ้วกวาฬ"เกยตื้นชายทะเลหัวไทรลือกระฉ่อนกิโลละเป็นล้าน