มุกเดิม!โจรชิงทองอ้างเศรษฐกิจไม่ดีหมดเงินใช้เลยชวนเพื่อนทำชั่ว

เมื่อวันที่ 9 ก.พ.พล.ต.ต.ชุมพล  พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รอง ผบก.รักษาราชการแทน ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันคุมตัว นายสามารถ หรือ เก๋ บุญสุข อายุ 30 ปี ชาวจ.สุรินทร์ และนายวสันต์ หรือ หนึ่ง สวัสดีพุทธา อายุ 28 ปี ชาวจ.กาฬสินธุ์ สองผู้ต้องวิ่งราวทรัพย์ร้านทองห้างทองเยาวราชศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ท้ายซอยวัดด่านสำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปาการ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในข้อกล่าวหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังห้างทองเยาวราชศรีนครินทร์จุดเกิดเหตุ

ทั้งนี้ ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับผู้นายสามารถ ได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในซอยจรัญสนิทวงศ์ 34 แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.สอบสวนให้การรับสารภาพว่า หลังก่อเหตุได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทจำนวน 1 เส้นไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในห้างโลตัส สุขุมวิท 50 และตรวจยึดของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า โนวา สีน้ำเงิน-ขาวแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน พาหนะในการก่อเหตุจอดอยู่ด้านหน้าห้องเช่าดังกล่าว จากการสอบสวนขยายผลได้ทราบว่านายวสันต์ หลังก่อเหตุได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้นหลังก่อเหตุได้แบ่งกันคนละเส้นติดตัวไปด้วย โดยนั่งรถบขส.เพื่อที่จะเดินทางกลับไปกบดานที่บ้านเกิดในจ.กาฬสินธุ์ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจนครราชสีมา ช่วยสกัดจับกุมตัวนายวสันต์เอาไว้ได้ในขณะที่รถบขส.คันดังกล่าวเข้าจอดรับผู้โดยสารที่ บขส.นครราชสีมา พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้นที่นำติดตัวมา ก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนที่โรงพัก สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ

จากการสอบสวนนายสามารถอ้างว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีเงินไม่มีใช้ ก่อนเกิดเหตุได้ชักชวนนายวสัต์ เพื่อนที่เคยไปแข่งรถจักรยานยนต์ด้วยกัน ให้มาก่อเหตุ โดยให้นายวสันต์เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนตนเองได้ลงมาก่อเหตุก่อนที่จะพากันหลบหนีไปกบดานที่ห้องพักของนายสามารถ ก่อนจะแบ่งทองคนละ 1 เส้น นายสามารถได้นำสร้อยทองขาย ส่วนตนเดินทางไปกบดานที่บ้านเกิดในจ.กาฬสินธุ์ และตั้งใจจะนำสร้อยทองไปขายที่ร้านทองในขจ.กาฬสินธุ์แต่มาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป