posttoday

ตำรวจอุบลฯส่งฟ้องเพนกวิน-โตโต้ 2แกนนำราษฎร อัยการนัดฟังคำสั่ง24ก.พ.64

29 มกราคม 2564

อุบลราชธานี-ตำรวจส่งฟ้องเพนกวิน-โตโต้ แกนนำและหัวหน้าการ์ดคณะราษฎรผิดอาญาม.112 อีก2ผู้จัดกิจกรรมถูกดำเนินคดีม.116ฐานปลุกปั่น

เมื่อวันที่ 29ม.ค.64 นายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ แกนนำคณะราษฏร เดินทางไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดอุบลราชธานี คดีที่พนักงานสอบสวนสั่งฟ้องในความผิดม.112และม.116 หลังขึ้นเวที "เด็กพูด ผู้ใหญ่ฟัง" ที่คณะอุบลปลดแอกจัดที่ลานหน้าศาลหลักเมือง เมื่อวันที่ 22 ส.ค.63ซึ่งอัยการได้แจ้งให้มารับฟังคำสั่งคดีในวันที่ 24ก.พ.64

คดีนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ดำเนินคดีกับผู้ร่วมจัดกิจกรรม 4 คนเป็นแกนนำคณะอุบลปลดแอก ซึ่งเป็นผู้จัดกิจกรรม 2 คน คือ นายวิศรุต สวัสดิ์วร และว่าที่ร้อยตรีฉัตรชัย หรือทนายแชมป์ แก้วคำปอด ถูกดำเนินคดีตาม ม.116 ยุยงปลุกปั่นให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี

ส่วนนายปิยรัฐ หรือโตโต้ ถูกดำเนินคดี ม.116 และ พรบ.คอมพิวเตอร์ สำหรับนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ถูกดำเนินคดี พรบ.คอมพิวเตอร์ ม.116 และ ม.112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งมีอัตราโทษที่สูงขึ้นจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี

ตำรวจอุบลฯส่งฟ้องเพนกวิน-โตโต้ 2แกนนำราษฎร อัยการนัดฟังคำสั่ง24ก.พ.64

ก่อนรับฟังคำสั่งอัยการนายปิยรัฐไปร่วมกันทำกิจกรรมกลุ่มมวลชนที่ศาลหลักเมืองอุบลราชธานี ก่อนเดินทางเท้าไปที่สำนักงานอัยการที่อยู่ห่างออกไป300เมตรเพื่อสมทบกับนายพริษฐ์ ที่เดินทางมาในภายหลัง

นายปิยรัฐ กล่าวถึงแนวทางการต่อสู้คดีกรณีนี้ว่า พร้อมจะสู้ทุกชั้นในการพิจารณาคดีของศาล เบื้องต้นก็ยังไม่รู้ว่าอัยการจะส่งฟ้องตนตามที่พนักงานสอบสวนได้ทำเรื่องฟ้องใน 2 ข้อหาทั้ง พรบ.คอมพิวเตอร์และ ม.116 หรือไม่ยืนยันว่าไม่ได้มามุ่งร้ายหรือปลุกปั่นตามที่ถูกกล่าวหา

สำหรับการเคลื่อนไหวต่อไป ต้องมีการสอดรับให้ประสานกันทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ซึ่งตนจะทุ่มเทกำลังที่มีอยู่มาในภาคอีสาน โดยเฉพาะที่จังหวัดอุบลราชธานี เพราะเป็นจังหวัดใหญ่ที่มีสถาบันการศึกษาหลายแห่ง การเดินทางมาสะดวก และจากการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ผ่านมา ฝ่ายประชาธิปไตยมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น และตื่นรู้ทางการเมืองเรื่องประชาธิปไตยมากขึ้น