posttoday

โจรอ้างคนไม่เที่ยวอาบอบนวดทำให้ตกงานต้องมาจี้ทองใช้หนี้พนัน

20 มกราคม 2564

นครราชสีมา-ผบช.ภาค 3 นำแถลงจับกุมคนร้ายชิงทองห้างดังโคราช ใช้เวลาไล่ล่าเพียง 19 ชม.ก่อนหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน สารภาพโควิดทำให้คนไม่เที่ยวอาบอบนวดเลยตกงานต้องหาเงินใช้หนี้

เมื่อวันที่ 20 มกราคม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รองผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจน์กิจ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 3 ,พ.ต.อ.อิษฎ์ บุญญะฤทธิ์ ผกก.สภ.โนนไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายคุณสอบ ดอกแก้วกลาง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ ต.ตาจั่น อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ภายในห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาอ.โนนไทย จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ได้สร้อยทองคำไป 119 เส้น น้ำหนักทองรวม 72 บาท 50 สตางค์ มูลค่ากว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ขับรถหลบหนี และไปกบดานอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี มาถูกจับกุมได้ก่อนจะหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

นายคุณสอบ ผู้ต้องหา สารภาพว่า ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเพราะไม่มีเงินสาเหตุมาจากพิษโควิดระบาด ทำให้ไม่มีใครกล้าไปเที่ยวสถานอาบอบนวดที่เคยทำงานอยู่ จึงทำให้ไม่มีรายได้จึงตกงาน ประกอบกับต้องการหาเงินใช้จ่ายและใช้หนี้พนัน จึงวางแผนก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยวันก่อเหตุได้แต่งกายอย่างมิดชิด สวมกางเกงขายาวสีแดง สวมเสื้อแขนยาวสีเขียวอ่อน มีฮูทคลุมศีรษะ สวมถุงมือ และสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาที่ร้านทองดังกล่าว ก่อนจะควักปืนสั้นจี้ชิงทองภายในร้าน และขู่พนักงานให้หยิบทองรูปพรรณใส่ถุงให้ แต่พนักงาน 3 คนที่อยู่ในเค้าท์เตอร์มีท่าทางหวาดกลัวทำอะไรไม่ถูก จึงตัดสินใจปีนเค้าท์เตอร์เข้าไปหยิบทองที่แขวนอยู่ในตู้โชว์ด้วยตนเอง เมื่อหยิบทองไปได้จำนวนหนึ่ง จึงรีบปีนเค้าท์เตอร์วิ่งหนีออกไปจากร้าน แล้วขึ้นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่จอดไว้ด้านหน้าห้าง ขับหลบหนีไปทางต.หนองสรวง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา

โจรอ้างคนไม่เที่ยวอาบอบนวดทำให้ตกงานต้องมาจี้ทองใช้หนี้พนัน

จากนั้น ได้จอดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไว้ที่บ้าน อ.โนนสูง ห่างจากที่ก่อเหตุ 16 กิโลเมตร แล้วขับรถยนต์ส่วนตัว ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงินหลบหนีไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อเตรียมจะหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่มาถูกตำรวจสกัดจับ ตรวจค้นภายในรถยนต์ พบปืนพกสั้นที่ใช้ก่อเหตุ 1 กระบอก และพบของกลางสร้อยคอทองคำที่จี้ชิงทรัพย์มาจำนวนหนึ่ง ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบปากคำ ก่อนให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ตำรวจได้ควบคุมตัวไปทำแผนจุดเกิดเหตุ ก่อนจะนำตัวมาส่งที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ตำรวจที่เกี่ยวข้องสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมคนร้าย และได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดอุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้สกัดกั้นเส้นทางหลบหนีออกนอกประเทศ พร้อมกับร่วมกันจับกุมตัวคนร้ายและตรวจยึดของกลางซึ่งเป็นทองรูปพรรณ ก่อนควบคุมนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรโนนไทย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โจรอ้างคนไม่เที่ยวอาบอบนวดทำให้ตกงานต้องมาจี้ทองใช้หนี้พนัน

อย่างไรก็ตาม ตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธและยานพาหนะในเวลากลางคืน การสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ รวมระยะเวลาตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงจับกุมตัวคนร้ายได้ประมาณ 19 ชั่วโมง เกิดจากความร่วมมือร่วมใจใช้ความละเอียดรอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ การรวบรวมพยานหลักฐาน และการประสานงาน จึงสามารถจับกุมคนร้ายได้ ต้องขอเตือนผู้ที่คิดจะก่อเหตุในลักษณะนี้หรือประกอบเหตุอาชญากรรมอื่นๆ ว่า ตำรวจภูธรภาค 3 จะไม่ยอมให้ผู้กระทำความผิดไปสร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนอย่างเด็ดขาด และจะดำเนินการอย่างจริงจังกับผู้กระทำผิดทุกราย