ขอนแก่นคุมเข้มย้ำชัดการ์ดอย่าทุกคนต้องร่วมมือป้องกันโควิด

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2563 ที่ห้องปฎิบัติการอณูวิทยาชั้นสูง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตรงข้ามศาลจังหวัดขอนแก่น นายสุเทพ มณีโชติ รอง ผวจ.ขอนแกน พร้อมด้วย นายพิชัย วันตา ป้องกันจังหวัดขอนแก่น นำกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ตำรวจ,กอรมน.ฝ่ายสาธารณสุข,เทศบาลนครขอนแก่นและแรงงานจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง 4 ประเภท ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางขอนแก่น,พนักงานบริการทั่วไป,กลุ่มบุคคลที่กลับมาจากกลุ่มจังหวัดเสี่ยงและบุคคลที่มีความเสี่ยงตามไทมน์ไลน์ของผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการตรวจคัดกรองเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีกลุ่มเสี่ยงทั้ง 4 ประเภทเข้ารับการตรวจคัดกรอง ตามที่เจ้าหน้าที่กำหนดรวมกว่า 300 คน

ขณะดียวกันคณะฯยังได้ตรวจสถานประกอบการในพื้นที่ที่รับผิดชอบเริ่มจากร้านคาราโอเกะ ชั้น 1 โรงแรมอวานีขอนแก่น,ร้านตะวันแดง เพื่อตรวจสอบมาตรการป้องกันตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ตั้งแต่ประตูทางเข้า ที่ต้อมีการตั้งจุดตรวจคัดกรองด้วยการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ,การให้บริการเจลแอลกอฮออล์ล้างมือ การเว้นระยะห่างของโต๊ะ การจำกัดพื้นที่การใช้บริการ 1 คนต่อ 5 ตารางเมตร ควบคู่การตรวจเข้มตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านอุตสาหกรรมและด้านสาธารณสุขในด้านต่างๆ นอกจากนี้คณะยังคงเข้าตรวจสอบไซค์งานก่อสร้างภายในท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามการดำเนินงานตามมาตรการการห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวในระยะนี้อย่างเข้มงวดอีกด้วย

นายสุเทพ มณีโชติ รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การทำงานเชิงรุกเป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานจะต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นและเข้มงวด การ์ดอย่าตกเด็ดขาดกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ขอนแก่น ยืนยันผู้ป่วยติดเชื้อระลอกใหม่ ทั้งหมด 6 คน รักษาหายขาดแล้ว 3 คน ซึ่งการสอบสวนโรคตามไทมน์ไลน์ที่ปรากฏเป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานจะทำการตรวจคัดกรองอย่างหนัก ซึ่งต้องขอบคุณในทุกความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกิดขึ้นอย่างเช่นวันนี้เรามีการให้กลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่ม เข้ารับการตรวจคัดกรองและเก็บตัวอย่างมาทำการตรวจหาเชื้อเพื่อให้เกิดความมั่นใจในพื้นที่จังหวัดของเรา

“ ทุกหน่วยงานทำงานกันอย่างหนัก อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เพื่อให้การควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ของเรานั้นมีความปลอดภัย 100% โดยเฉพาะสถานบริการและสถานประกอบการ ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงที่ต้อรัดกุมในทุกมาตรการที่ภาครัฐกำหนด ซึ่งขณะนี้มีทั้งในส่วนที่ยังคงเปิดให้บริการและปิดให้บริการ ซึ่งทุกมาตรการควบคุมจะต้องเข้มข้นและเข้มงวด เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และอุ่นใจ จนนำไปสู่การก้าวผ่านวิกฤติที่เกิดขึ้นนี้ไปด้วยกัน อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือไปยังสถานบริการและสถานประกอบการ ในการนำพนักงานของตนเองมาเข้ารับการตรวจคัดกรอง รวมทั้งผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่มที่จังหวัดกำหนดจะต้องเข้ารายงานตัวและเข้ารับการตรวจคัดกรองในระยะนี้อย่างเข้มงวดด้วย”