แม่น้ำป่าสัก-แม่น้ำลพบุรี เน่าเหม็นทั้งสาย
แม่น้ำป่าสัก-แม่น้ำลพบุรี เกิดวิกฤตเน่าเหม็น คาดมาจากน้ำที่ปล่อยจากทุ่งนาปีที่ปนเปื้อนเคมีทางการเกษตร หรือโรงงานลักลอบปล่อยน้ำเสีย
แม่น้ำป่าสัก-แม่น้ำลพบุรี เกิดวิกฤตเน่าเหม็น คาดมาจากน้ำที่ปล่อยจากทุ่งนาปีที่ปนเปื้อนเคมีทางการเกษตร หรือโรงงานลักลอบปล่อยน้ำเสีย
พ.จ.อ. อ.สุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ลงสำรวจสภาพน้ำในแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำลพบุรี ตามที่นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจ.พระนครศรีอยุธยา เร่งให้ดำเนินการตรวจสอบสภาพน้ำเน่าเสียจนมีสีดำ หลังจากชาวบ้านที่ตั้งบ้านเรือนริมแม่น้ำทั้ง 2 สาย ในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา ร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ว่าสภาพน้ำเน่าเสียจนเป็นสีดำและเริ่มมีกลิ่นเหม็น โดยครั้งแรกในช่วงปลายเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา และสภาพน้ำเริ่มดีขึ้น แต่ ล่าสุด สภาพน้ำเริ่มเน่าเสียอีกครั้งในช่วงกลางเดือนม.ค.นี้ และสภาพของน้ำพบว่าจะทวีความเน่าเสียเพิ่มขึ้นอีก
ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า แม่น้ำป่าสักที่เป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ไหลจาก อ.ท่าเรือ ผ่าน อ.นครหลวง ผ่านไปยัง อ.พระนครศรีอยุธยา โดยบริเวณท่าหน้าวัดมณฑป ท่าเรือแดง ท่าน้ำบ้านพักปลัดจังหวัด ท่าน้ำที่ทำการสาธารณสุขจังหวัด มีสีออกดำและส่งกลิ่นเหม็นตลอดสาย โดยปลาในแม่น้ำเริ่มลอยหัวเพื่อหาอากาศหายใจและบางตัวลอยตายอืด ซึ่งปลาธรรมชาติตามโครงการปลาหน้าวัด เช่นวัดวัดกล้วย วัดเกาะแก้ว วัดพนัญเชิง วัดรัตนชัย ได้รับผลกระทบแล้ว
ขณะที่แม่น้ำลพบุรีและคลองเมืองที่ไหลมาบรรจบแม่น้ำป่าสักที่ท่าน้ำหัวรอ พบว่าน้ำจากแม่น้ำป่าสักไหลย้อนเข้าไป จนน้ำในแม่น้ำลพบุรี และคลองเมือง เขต ต.หัวรอ กลายเป็นสีดำเหมือนแม่น้ำป่าสักเช่นกัน ที่สำคัญน้ำเน่าเสียแม่น้ำป่าลักและลพบุรี ได้ไหลไปลงแม่น้ำเจ้าพระยาที่จุดบรรจบของแม่น้ำหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร ซึ่งใกล้กันประมาณ 1 กม.นี้เองจุดสูบน้ำขนาดใหญ่ของกองการประปาเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ใช้สูบน้ำดิบจากแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นไปทำน้ำประปาบริการแก่ประชาชนในเขตเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา
นายภุชงค์ มีสวัสดิ์สม อายุ 63 ปี บ้านพักอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก กล่าวว่า น้ำในแม่น้ำป่าสักมีสีดำจนชัดเจน สังเกตดูพบว่าน้ำไหลมาจากทางเหนือ และได้ทดลองเอาเท้าแหย่ลงไปในแม่น้ำสักครู่รู้สึกคันแล้วยังพบว่าปลาที่อยู่หน้าวัดมณฑปลอยหัวเป็นแพจำนวนมาก จนชาวบ้านพายเรือจับกันไปประกอบอาหาร สงสัยว่าปลาจะขาดออกซิเจน ซึ่งไม่ทราบน้ำมีสีออกดำเพราะอะไร บางคนก็ว่าเกิดจากการปล่อยน้ำออกจากทุ่งนาทางทิศเหนือของแม่น้ำป่าสัก และบางคนก็ว่าอาจมีโรงงานอุตสาหกรรมแอบปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำ อย่างไรก็ตามอยากให้เร่งแก้ไข ก่อนที่จะเกิดความเสียหายมากกว่านี้
ขณะนี้พ.จ.อ.อ. สุวัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรพโกศลกุล นายกเทศมนตรี ได้รับการประสานจากผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เร่งดำเนินการหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขโดยด่วน ซึ่งผลการสำรวจก็พบว่าน้ำมีสีคล้ำจริง และเริ่มเน่าเหม็น อากาศในน้ำมีน้อย ปลาเล็กๆ เริ่มลอยหัวหาอากาศด้านบน โดยน้ำเน่าเสียเกิดจากแม่น้ำป่าสัก และไหลย้อนเข้าแม่น้ำลพบุรี คลองเมือง และแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะเกาะเมืองอยุธยาเป็นจุดรวมของแม่น้ำ 3 สาย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ต้องหาทางแก้ไขด่วนที่สุด เบื้องต้นต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าน้ำเน่าเสียเกิดจากสาเหตุใด
ทั้งนี้ ตั้งข้อสมมุติฐานไว้ 2 ด้าน คือ 1.การเร่งระบายปล่อยน้ำจากพื้นที่การเกษตร คือทุ่งข้าวนาปี ของกรมชลประทานในเขตเหนือน้ำ เช่นพื้นที่การเกษตรในเขต อ.พระนครศรีอยุธยา , อ.นครหลวง และ อ.ท่าเรือ เพื่อลดระดับน้ำในทุ่งนาให้แห้ง และสะดวกต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี ซึ่งน้ำในทุ่งนาอาจจะมีสารเคมีตกค้างปนเปื้อน หรือ 2.อาจมีโรงงานหรือสถานประกอบการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำป่าสัก