โจรใจบาปงัดตู้บริจาคในศาลหลักเมืองกวาดเงินทำบุญไปเกือบหมด

เมื่อว้นที่ 15 พ.ย. พ.ต.ท.สุวิทย์ นวลสง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายลักทรัพย์งัดตู้บริจาคเงินภายในศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ข้าง บก.ภ.นครศรีธรรมราช ต.คลัง อ.เมือง พบนางวิภารัตน์ เฉตาไพย อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช นำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่เกิดเหตุประตูด้านหลังมีร่องรอยถูกคนร้ายทำการงัดกุญแจประตูศาลหลักเมืองจนหลุดประตูเปิดอ้า

ทั้งนี้ ตรวจสอบด้านในศาลหลักเมืองพบว่า บริเวณวางตู้บริจาคเงินทางเข้าประตูด้านหน้า 2 ใบ เป็นตู้ไม้มีร่องรอยถูกงัดบริเวณช่องใส่เงินด้านบน เงินเศษเหรียญและธนบัตร 20 และ 100 บาทเหลือค้างอยู่ตู้บริจาคจำนวนไม่มากนัก และบนพื้นใกล้ตู้บริจาคพบเศษเหรียญชนิดต่างๆ หล่นเกลื่อนกระจาย อีกตู้หนึ่งเป็นตู้เหล็กมีร่องรอยถูกงัดแต่ไม่สามารถงัดตู้เหล็กดังกล่าวได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่าเงินในตู้รับบริจาคถูกคนร้ายได้ไปจำนวนเท่าไหร่

นางวิภารัตน์ เฉตาไพย เจ้าหน้าที่ดูแลศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ให้การว่า ปกติศาลหลักเมืองจะเปิดเวลา 07.30น.และปิด1 8.00 น.ทุกวัน วันนี้ช่วงเช้าได้มาทำการเปิดประตูศาลหลักเมืองตามปกติ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปกราบไหว้บูชา ปรากฏว่า ประตูศาลหลักเมืองด้านหลังมีร่องรอยถูกงัดกุญแจประตูเปิดอ้าอยู่ เมื่อเข้าไปดูด้านในพบว่าตู้รับเงินบริจาคถูกคนร้ายงัดจนเหรียญตกบนพื้นกระจัดกระจาย จึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

สำหรับ จำนวนเงินที่ถูกคนร้ายโจรกรรมไปไม่ทราบว่าจำนวนเท่าไร เพราะปกติในวันเปิดตู้บริจาคจะมีเจ้าหน้าที่จากกองคลังเทศบาลนครนครศรีธรรมราชมาทำการเปิดและนำเงินไปเข้าคลังในช่วงวันธรรมดาคือจันทร์-ศุกร์ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ จะไม่มีเจ้าหน้าที่มาเปิดตู้บริจาค ซึ่งเท่าที่ทราบยอดเงินในตู้บริจาคแต่ละวันประมาณ 3,000-5,000 บาทโดยเมื่อวันที่ี 14 พ.ย.เป็นวันดี มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมากราบไหว้ศาลหลักเมือง ช่วงปิดประตูศาลหลักเมืองมีเงินในตู้จนเกือบเต็ม คาดว่าน่าจะมีเงินในตู้ไม่ต่ำกว่า 1-2 หมื่นบาท หลังนักท่องเที่ยวกลับหมดจึงเก็บข้าวของและปิดตูกลับบ้าน จนรุ่งเช้ามาพบประตูศาลหลักเมืองถูกคนร้ายงัดเข้าไปงัดตู้บริจาคกวาดเงินไปแล้วดังกล่าว ซึ่งคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวทางเข้าออกของศาลหลักเมืองเป็นอย่างดีน่าจะดูลาดเลาก่อนเข้าก่อเหตุ

ทั้งนี้ หน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบลายนิ้วมือแผงของคนร้ายในที่เกิดเหตุเพื่อเป็นหลักฐาน และจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบๆ ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป สำหรับที่เกิดเหตุศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชอยู่ติดกับ บก.ภ.นครศรีธรรมราช และอยู่ห่างจากบ้านพักของ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ประมาณ 100 เมตร คนร้ายยังกล้าลงมือเข้าไปงัดตู้บริจาคของศาลหลักเมืองดังกล่าว