posttoday

ม็อบขอนแก่นชู 3 นิ้วตะโกนลั่นศักดินาจงพินาศประชาราษฎร์จงเจริญ

18 ตุลาคม 2563

ขอนแก่น-นักเรียนนักศึกษาขยายพื้นที่ชุมนุมพร้อมปิดถนนศรีจันทร์ ขณะที่ "ครูใหญ่" แกนนำหลักยืนยันพร้อมให้ตำรวจจับแต่ต้องปฏิบัติอย่างอารยวิธี มั่นใจผู้ชุมนุมเหมือนดอกไม้ ยิ่งเด็ดยิ่งแตกกิ่งก้าน ยิ่งจับแกนนำประชาชนยิ่งเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 18 ต.ค.เวลา 18.00 น. ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เขตเทศบาลนครขอนแก่น กลุ่มนักศึกษา และนักเรียน ในชื่อกลุ่มดาวดิน กลุ่มขอนแก่นพอกันที กลุ่มภาคีนักเรียน KKC และภาคีเครือข่ายและภาคประชาชน ร่วมชุมนุมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ขณะเข้าร่วมชุมนุมที่ กรุงเทพฯ และแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมของประชาชนที่มาชุมนุมด้วยมือเปล่า และต่อสู้ด้วยหลักอหิงสา ตามสิทธิเสรีภาพของการเป็นประชาชนภายใต้ระบอกการปกครองแบบประชาธิปไตย และมองว่าเป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชน ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังล้อมรอบบริเวณศาลหลักเมืองขอนแก่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย

ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมได้ร่วมกันยืนตรงชู 3 นิ้วร้องเพลงชาติไทย ก่อนจะกล่าวคำว่า ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ 3 ครั้ง และกล่าวคำไล่นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐบาลให้ลาออกไป ก่อนที่นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือเซฟ นักศึกษากลุ่มขอนแก่นพอกันที จะประกาศบนเวทีเพื่อยกระดับการชุมนุมปิดถนนศรีจันทร์ ยึดพื้นที่บนถนน โดยทางตำรวจได้ตั้งแนวรับก่อนที่ผู้ชุมนุมจะทำการผลักดันให้เจ้าหน้าที่ขึ้นไปอยู่บนฟุตบาทได้สำเร็จ โดยไม่มีการปะทะกันที่รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด ก่อนที่ผู้ชุมนุมทั้งนักเรียน นักศึกษา ประชาชน จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นปราศรัยทางการเมือง สลับกับการทำกิจกรรมร้องเพลง และยังไม่มีกำหนดว่าจะยุติในเวลาใด

ม็อบขอนแก่นชู 3 นิ้วตะโกนลั่นศักดินาจงพินาศประชาราษฎร์จงเจริญ

นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที กล่าวว่า ขณะนี้ส่วนตัวมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมทั้งคณะรัฐบาล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งผู้มีอำนาจ ใครเป็นผู้สั่งให้มีการสลายการชุมนุม หรือให้มีการจับกุมแกนนำทีละคนนั้น เป็นการตัดสินใจผิดพลาดที่สุด เพราะประชาชนเปรียบเสมือนดอกไม้ ยิ่งเด็ดก็ยิ่งแตกกิ่งก้าน ขณะนี้ประชาชนไม่จำเป็นต้องมีแกนนำเพราะไม่ใช่การปลุกระดม แต่คือประชาชนมองเห็นในข้อเท็จจริงและลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยกัน และแม้ว่าต่อไปนี้ไม่มีแกนนำประชาชนทุกคนก็จะลุกขึ้นมาต่อสู้และการไม่มีแกนนำต้องบอกเลยว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานได้ยาก

นายอรรถพล กล่าวว่า สำหรับหมายจับของตนเองนั้น ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ เตรียมใจมาโดยตลอด ดังนั้นอิสรภาพก็จะถูกจำกัดไปชั่วคราว แต่เสรีภาพของประชาชนจะต้องมีตลอดไป แม้วันนี้จะต้องถูกควบคุมตัว ตนเองก็พร้อมที่จะเดินเข้าไปอย่างสง่างาม จะไม่มีการขัดขืน ขอให้ตำรวจเข้ามาจับกุมตัวอย่างอารยวิธี อย่างถูกต้อง อย่างสันติ ตนเองพร้อมที่จะไปด้วย และต่อจากนี้ไป ม็อบนี้ไม่มีแกนนำอีกต่อไป การนำแต่ละจังหวัด ไม่ได้นำมาจากตนเองคนเดียว ไม่ได้นำมาจากแกนนำคนใดคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ประชาชนทุกคนนำกันเองมาโดยตลอด และประชาชนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในขณะที่แกนนำน้อยลง

ม็อบขอนแก่นชู 3 นิ้วตะโกนลั่นศักดินาจงพินาศประชาราษฎร์จงเจริญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหมายจับของนายอรรถพล บัวพฒน์ หรือครูใหญ่ แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที นั้นเป็นหมายจับของ สน.ปทุมวัน ในความผิดฐาน ฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกันหรือการกระทำอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548