กลุ่มโคราชจี้รัฐบาลคืนความยุติธรรมสังคมไทยปมคำสั่งไม่ฟ้องบอส

นายจักริน เชิดฉาย ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันจังหวัดนครราชสีมา แถลงการณ์ ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ว่า การบริหารงานของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพเริ่มมีความตื่นรู้ และเกิดวิกฤติศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมไม่ได้เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง กรณีคำสั่งไม่ฟ้องบอส อยู่วิทยา จึงเรียกร้องขอความยุติธรรมคืนสู่สังคมไทยขอให้มีการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ อัยการ และศาล

ดังนั้น เมื่อประชาชนขาดศรัทธา ประเทศชาติก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้วันนี้จึงถึงเวลาที่จะต้องออกมาเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้รัฐบาล และหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ต้องปรับตัวเพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริง"เราไม่ได้มาไล่รัฐบาล"แต่ต้องการมาให้กำลังใจเพื่อเร่งดำเนินการหาตัว"คนผิดที่แท้จริง"มารับโทษให้ได้ อย่าปล่อยให้คนตัวเล็กตัวน้อยต้องมารับผิดแทนคนที่มีอิทธิพล หรือปล่อยให้ข้าราชการที่เอื้อประโยชน์ลอยนวลอยู่ในสังคมได้อีก วันนี้รัฐบาลจะต้องไม่ประวิงเวลา ทำให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นได้อีกครั้งว่า ความยุติธรรมเสมอภาคกันทุกคน เพื่อเรียกศรัทธากลับคืนมาให้ได้

ด้านนายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ซึ่งเดินทางมากราบมากราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี กล่าวว่า กรณีการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อกล่าวหาของอัยการในคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ต้องดูว่าได้มีคำสั่งถูกต้องตามระเบียบ และโดยชอบตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งดุลพินิจในการสั่งจะต้องชี้แจงให้ชัดว่าเป็นอย่างไร หากเป็นคำสั่งโดยชอบก็หมดปัญหาข้อสงสัย แต่ถ้าเป็นคำสั่งโดยไม่ชอบก็ต้องไปดูเรื่องวินัย ซึ่งคณะกรรมการอัยการได้ลงไปตรวจสอบแล้ว แต่สำนวนนี้ประชาชนยังมีความเข้าใจผิดเรื่องคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง โดยเรื่องการร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้งของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทาง ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุดขณะนั้นได้มีคำสั่งให้ยุติการพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมแล้ว ดังนั้น ต้องถือว่า คำสั่งฟ้องที่สั่งไว้มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย

จากนั้น หากมีกรณีร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาสู่การพิจารณาของพนักงานอัยการอีก การที่พนักงานอัยการคนใดจะหยิบยกเพื่อพิจารณาให้ความเป็นธรรมโดยสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมและมีคำสั่งใดใดใหม่ ต้องมีคำสั่งจากอัยการสูงสุดก่อน จึงจะดำเนินการได้ ดังนั้น หากดำเนินการโดยไม่ได้ขออนุญาตจากอัยการสูงสุด จะถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ชอบด้วยระเบียบ จึงส่งผลทำให้คำสั่งเหล่านั้นไม่มีผลใช้บังคับจึงขอชี้แจงให้ประชาชนได้มั่นใจว่า"หากกระทำผิดจริง จะจนหรือรวยก็ติดคุกเหมือนกัน"