"บิ๊กป้อม"ขึ้นเหนือไปเมืองชาละวันสั่งแก้ปัญหาบึงสีไฟ-แม่น้ำพิจิตร

เมื่อวันที่ 15 ก.ค.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจราชการพื้นที่จ.พิจิตรเพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้งบึงสีไฟและแม่น้ำพิจิตร โดยมี นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พ.อ.วีรวัฒน์ วิวัฒน์วานิช รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ การพัฒนาบึงสีไฟที่กำลังเป็นปัญหาหมักหมมมานานหลายปี สืบเนื่องจากบึงสีไฟเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ มีพื้นที่ประมาณ 5,300 ไร่ แต่ตื้นเขิน ต่อมากรมเจ้าท่าได้อนุมัติงบประมาณ 341 ล้านบาท ขุดลอกบึงสีไฟแบ่งการทำงานของผู้รับจ้างเป็น 2 ระยะ ที่ต้องขุดดินออกจากบึงสีไฟจำนวน 12 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปรากฏว่าเมื่อขุดดินขึ้นมาแล้ววางกองอยู่รอบบึงสีไฟกลายเป็นภูเขา เป็นสิ่งที่ชาวพิจิตรไม่ต้องการมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว รวมถึงเป็นสิ่งทำลายภูมิทัศน์

จากการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประวิตร มองเห็นว่า ประโยชน์ของบึงสีไฟสารถใช้เป็นแหล่งรับน้ำได้จำนวนมากกว่า 12 ล้านลูกบาศก์เมตร พล.อ.ประวิตรจึงได้สั่งการขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องกองดินที่ขุดขึ้นมาว่า ให้เร่งประมูลขายหรือหางบประมาณ ขุด ขน ย้าย ไปให้ส่วนราชการหรือถมในที่ดินสาธารณะ ซึ่งผวจ.พิจิตร เสนอให้นำไปขยายเส้นทางถนนพิจิตร-สากเหล็ก จาก 2 ช่องการจราจรเป็น 4 ช่องการจราจรโดยใช้ดินจากบึงสีไฟนี้ รวมถึงดินส่วนหนึ่งให้เอาไปถมพื้นที่บริเวณหลังศาลากลางพิจิตร

นอกจากนี้ ภาคประชาชนกลุ่มขุนศึกลูกพ่อปู่กอบกู้แม่น้ำพิจิตร ได้ขอเสนอให้ช่วยฟื้นฟูแม่น้ำพิจิตรและคลองข้าวตอกเพื่อให้บึงสีไฟเป็นพื้นที่รับน้ำและกระจายน้ำสู่แม่น้ำพิจิตร – คลองข้าวตอกได้อีกด้วย นอกจากนี้ก็อยากให้ปรับภูมิทัศน์และสร้างเส้นทางจักรยานซึ่งแขวงทางหลวงชนบทพิจิตรได้งบประมาณมาแล้ว แต่ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับจ้างไม่ได้ ดังนั้นหากมีการขนย้ายดินออกไปจากบึงสีไฟได้ก็ควรจัดสรรงบประมาณทำทางจักรยานที่จังหวัดพิจิตรเคยได้กลับคืนมาให้ด้วย