ชาวบ้านงง!เจอก.คลังทวงหนี้เงินเยียวยา5,000บาท
ขอนแก่น-ชาวบ้านได้รับจดหมายทวงหนี้เงินเยียวยา5,000บาทช่วงโควิด-19จากกระทรวงการคลัง ทั้งที่ไม่เคยได้รับเงินมาก่อนแม้แต่บาทเดียว
นายประวิทย์ แนนเกี้ยง อายุ 54 ปี และนางมะลิวรรณ โมลาเลิศ อายุ 51 ปี สองสามีภรรยา อยู่ที่บ้านเลขที่ 48 ม.2 บ้านเม็ง ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่นได้รับจดหมายทวงเงินเยียวยาเดือนละ5,000บาท จากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ระบุว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้มีมาตรการชดเชยรายได้ให้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่นๆของการแพร่ระบาดของไวรัส covid-19 หรือมาตรการเยียวยา 5,000 บาท 3 เดือน และท่านได้แสดงความประสงค์สละสิทธิ์การได้รับเงินชดเชยตามมาตรการเพื่อให้การดำเนินการสละสิทธิ์เป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ให้ดำเนินการคืนเงินชดเชยรายได้ทั้งหมดให้กระทรวงการคลังภายใน 7 วัน
นายประวิทย์ กล่าวว่า จดหมายทวงเงินชดเชย น่าจะมาจากที่ตัวเองได้ให้ลูกหลานในหมู่บ้านลงทะเบียนรับเงินเยียวยา ตามที่รัฐบาลประกาศช่วยเหลือประชาชนช่วงไวรัสโควิด-19 ก่อนจะลงทะเบียนได้ไปเปิดบัญชีที่ ธกส. เพื่อนำหมายเลขบัญชีลงในทะเบียนรับเงิน จนเวลาผ่านไปไม่มีใครได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว กระทั่งมีจดหมายมาทวงเงินก็ ก็ไม่มีจะคืนให้เพราะไม่ได้รับเงิน
ขณะที่นางมะลิวรรณ โมลาเลิศ อายุ 51 ปี กล่าวว่า ได้รับจดหมายทวงเงินตั้งแต่เมื่อวันที่ 28มิ.ย.63 จึงนำไปให้ผู้ใหญ่บ้านเพื่อให้หาทางช่วยเหลือ เพราะไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว แต่ถูกทวงเงินคืน เวลาผ่านไปเป็นเดือน มีข้อความภาษาอังกฤษเข้ามาที่มือถืออ่านไม่ออก จึงกดยกเลิก จากนั้นก็ไม่ได้รับรู้อะไรอีก หรือว่าข้อความดังกล่าวคือข้อความจากโครงการชดเชยเงินของรัฐบาล ซึ่งอ่านไม่ออก ไม่รู้เรื่องจึงปล่อยทิ้งไป หรือจะเป็นที่มาตามจดหมายทวงเงินว่า สามียกเลิก ในขณะที่ตัวเองซึ่งเป็นภรรยาก็ลงทะเบียนเช่นกันก็ยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียวเช่นกัน
"เรามีลูกชายสองคนทำงานอยู่ต่างจังหวัดจะส่งเงินมาให้พ่อแม่ เดือนละ 1,000 บาททางบ้านไม่ได้มีฐานะอะไร อาชีพรับจ้างทั่วไป และเมื่อไม่มีคนจ้างงานก็ไปหาหน่อไม่ หาพืชผักขายตามหมู่บ้านชุมชน เพื่อช่วยเหลือตัวเอง และการที่สามีถูกกระทรวงการคลังส่งจดหมายมาทวงเงินคืนในครั้งนี้ เชื่อว่าทวงผิดคน จึงอยากให้มีการแก้ไขและทบทวนความผิดพลาดครั้งนี้ด้วย"
ด้าน นายเฉลย สถิตชน ผู้ใหญ่บ้าน บ้านเม็ง ม.2 กล่าวว่าได้พาสองสามีภรรยาไปที่ธนาคารเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามจดหมายที่ได้รับแจ้งมา แต่ธนาคารไม่สามารถดำเนินการใดๆให้ได้ มีเพียงการแนะนำให้โทรศัพท์ไปยังหมายเลขที่มีให้ในจดหมาย จึงโทรศัพท์ไปตามหมายเลขดังกล่าว สายว่างและติดตลอด แต่ไม่มีคนรับสาย จึงพาไปที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอหนองเรือ เพื่อทำเรื่องเรียนให้ฝ่ายปกครองและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องรับทราบเพราะชาวบ้านไม่ได้รับเงิน จึงไม่มีเงินที่จะคืนให้รัฐบาลตามที่ถูกทวง