ดีเอสไอลงเขาค้อเก็บหลักฐานโครงการจัดสรรที่ดินรายใหญ่ หลังรับเป็นคดีพิเศษ

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) นำโดย พ ต.อ. อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำหมายค้นศาลจังหวัดหล่มสัก ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบและเก็บหลักฐานโครงการจัดสรรที่ดินขายรายใหญ่ ในพื้นที่ ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ สืบเนื่องจากกรมป่าไม้ตรวจสอบพบพิรุธมีการออกโฉนดทับพื้นที่ป่าไม้ถาวร จึงส่งมอบพยานหลักฐานให้ดีเอสไอ เมื่อวันที่ 30 มี.ค. จึงรับไว้เป็นคดีพิเศษ โดยมีพ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน. และชุดพยัคฆ์ไพร โดยนายสมชาย ฉิมแย้ม รวมทั้งคณะเจ้าหน้าที่ป่าไม้และที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ด้วย

ทั้งนี้ในการตรวจสอบมีตัวแทนซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการฯ นำคณะเจ้าหน้าที่ ชี้ขอบเขตของโครงการฯ ในขณะที่ทางดีเอสไอ ยังใช้อากาศยานไร้คนขับ(โดรน) ร่วมกับเครื่องรับสัญญาณจีพีเอสในการจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศและรังวัดตำแหน่งจุดเกิดเหตุ โดยพบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าไม้ถาวร ป่าหมายเลข 2 (ป่าทุ่งแสลงหลวง ) ปรากฏตามขอบเขตเส้นสีเขียวทแยง ขณะเดียวกันยังพบด้วยว่า ทางโครงการฯมีการทำประโยชน์ต่อเนื่องเพิ่มขึ้น หลังจากเมื่อปี 2561 ทางคณะเจ้าที่ป่าไม้ที่รับผิดชอบพื้นที่ ได้เคยเข้าตรวจสอบจำนวนหลายร้อยไร่

นอกจากนี้ยังปรากฏข้อเท็จจริงว่า โครงการดังกล่าว ทำธุรกิจจัดสรรที่ดินเพื่อแบ่งขาย ในพื้นที่ประมาณ 1,500 ไร่ ปัจจุบันได้มีการทำสัญญาซื้อขายไปแล้วประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่โครงการฯ ส่วนการซื้อขายที่ดินในโครงการฯที่จัดสรรที่ดิน มีการแบ่งโฉนดเป็นแปลงเล็กขายเป็นล็อค ในราคาตารางวาละ 20,000 บาท หรือ 8 ล้านบาทต่อไร่ มูลค่าที่ดินโดยรวมทั้งโครงการฯจึงไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท

สำหรับคดีนี้ยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ของทาง ดีเอสไอ ภายหลังทางกรมป่าไม้ส่งมอบพยานหลักฐาน หลังจากตรวจสอบพบสิ่งผิดปกติ โดยมีการออกเอกสารสิทธิทับซ้อนพื้นที่ป่าไม้ถาวร โดยทาง ดีเอสไอ จึงรับเป็นคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 30 มี.ค. เพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนยื่นฟ้องต่อศาลให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยมิชอบต่อไป ขณะเดียวกันในการลงพื้นที่ตรวจสอบดังกล่าว พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน.ยังได้ส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่โครงการฯดังกล่าว จำนวนมากให้กับรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อใช้ประกอบการสืบสวนสอบสวนอีกด้วย