"สนธยา"แจงดราม่า คลายล็อกชายหาดทำไมพัทยาเงียบเหงา

จากกรณีที่ภาครัฐมีการประกาศล็อคในระยะที่ 3 ที่ผ่านมา พบว่าในส่วนของพื้นที่สาธารณะใหญ่ อย่าง ชายหาด ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเข้าไปใช้พื้นที่ทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆได้ตามปกติ ส่งผลให้สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดชายหาดในสัปดาห์แรก ที่ชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี มีนักท่อง เที่ยวชาวไทยจำนวนมากเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนจนส่งผลให้การจราจรหนาแน่นและแออัด กระทั่งต้องมีการประกาศปิดเส้นทางการจราจรลงชายหาดบางเส้นทาง ซึ่งกระแสดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องราวดราม่าและมีการเปรียบเทียบกันกับชายหาดพัทยาที่พบว่ายังคงเงียบเหงาและบางตา

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา แจงเหตุดราม่าดังกล่าวว่าสำหรับในส่วนของกระแสนักท่องเที่ยวที่ล้นหาดบางแสนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจนมีการเปรียบเทียบกับชายหาดพัทยานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ เนื่องนักท่องเที่ยวที่เมืองพัทยากับบางแสนนั้นเป็นคนละกลุ่มกัน โดยชายหาดพัทยาส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 80-90 % ส่วนหาดบางแสนจะเป็นนักท่อง เที่ยวชาวไทยกว่า 90 % ซึ่งเป็นแบบนี้มานาน 10 กว่าปีแล้ว เรียกว่ามีความชัดเจนมากในส่วนของตลาดการท่องเที่ยว โดยในช่วงนี้จะหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวที่หาดพัทยาก็คงจะยาก เนื่องจากตอนนี้หลายประเทศทั่วโลกยังคงอยู่ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ในเรื่องของการเดินทางท่องเที่ยวก็คงเป็นประเด็นสุดท้าย หลังสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศต่างๆเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ผลจากกรณีนี้เลยทำให้ชายหาดพัทยายังคงไม่คึกคักถึงแม้ว่าจะมีการเปิดหาดไปแล้วก็ตาม อีกทั้งรวมถึงบริบทในด้านต่างๆก็แตกต่างกันระหว่างชายหาดพัทยา และ ชายหาดบางแสน อาทิ ในเรื่องของการเดินทางที่บางแสนจะใกล้กว่าพัทยา เรื่องของอาหารการกินที่พบว่ามีหาดบางแสนตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวคนไทยได้ดีกว่า เนื่อง จากว่าราคาไม่แพงและมีให้เลือกซื้อจำนวนมาก ทำให้หาดบางแสนจึงเป็นตลาดของคนไทย ส่วนในพื้นที่พัทยาหาดที่คนไทยนิยมมานั่งพักผ่อนกันก็จะเป็นชายหาดจอมเทียน

ส่วนสถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่เมืองพัทยานั้นจะมีกระแสในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างไรนั้น คงจะรอให้ภาครัฐดำเนินการปลดล็อคระยะที่ 4 ให้เร็วขึ้น และร่วมกันหามาตรการในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ภาย ในประเทศตามลำดับ เพราะในช่วงนี้การส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด