posttoday

ตำรวจบุกจับครูหื่นข่มขืนเด็กหญิงวัย13หลานสาวภรรยานาน3ปี

29 พฤษภาคม 2563

นครพนม-ตำรวจบุกจับครูหื่นคาบ้านคดีข่มขืนเด็กหญิงวัย13หลานสาวภรรยานาน3ปี ญาติพบพิรุธเค้นเหยื่อยอมเปิดปากไม่กล้าบอกใครเพราะผู้ต้องหาขู่จะไม่ให้เรียนหนังสือ

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.63 พ.ต.อ.วรเพชร เพชรบรม ผกก.สภ.เมืองนครพนม สั่งการให้ พ.ต.ท.จีรุฎฐ์ พิมพา รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองนครพนม พร้อมตำรวจชุดสืบสวน นำหมายศาลจังหวัดนครพนม ที่ จ 59/2563 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 เข้าจับกุมครูชายวัย52ปีของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง ขณะที่ตำรวจเข้าจับกุมผู้ต้องหามที่บ้านพัก ภรรยาของผู้ต้องหา ถึงกับหน้าซีด เพราะไม่คาดคิดว่า สามีจะก่อเหตุลักษณะนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฐานความผิด กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี โดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศของบุคคลนั้นโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ จากการสอบสวน เบื้องต้นให้การปฏิเสธ พร้อมคุมตัวไปฝากขังคัดค้านการประกันตัว

ก่อนนี้ผู้ปกครองของเด็กผู้เสียหาย ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.63 ตำรวจได้นำทีมสหวิชาชีพ เข้าสอบข้อเท็จจริง พร้อมส่งเด็กผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย ยืนยันพบถูกกระทำล่วงละเมิดทางเพศ จึงรวบรวมพยานหลักฐาน เสนอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา

สำหรับผู้เสียหายรายนี้มีฐานะเป็นหลานของภรรยาผู้ต้องหา ซึ่งพ่อแม่ของเด็กนำฝากไว้ เรียหนังสือ เพราะแยกทางกัน ตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษา ความมาแตกเมื่อผู้ปกครองวิดีโอคอลกับลูกสาว และเห็นผู้ต้องหาอยู่ในห้องด้วยกัน มีการดุด่าต่อว่าลักษณะคล้ายชู้สาว และเกิดความไม่สบายใจจึงขอรับเด็กกลับไป และเมื่อได้เค้นเอาความจริงเด็กสารภาพว่า ถูกข่มขืนกระทำชำเรามานานกว่า 3 ปี แล้ว แต่ไม่กล้าบอกใคร เพราะถูกข่มขู่ว่าจะไม่ได้เรียนหนังสือ ผู้ปกครองจึงตัดสินใจแจ้งความเอาผิดนำไปสู่การออกหมายจับ

ด้านผอ.โรงเรียนต้นสังกัดระบุว่า ผู้ต้องหาเป็นพนักงานราชการ ปฏิบัติหน้าที่เป็นครูการสอนการงานอาชีพนักเรียนชั้น ม.1-ม.6 วิชาเกษตรอุตสาหกรรม ภรรยาเป็นครูสอนที่โรงเรียนแห่งเดียวกัน ทำงานด้วยกันมากว่า10ปีไม่คิดว่าน่าจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ เบื้องต้นได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเสนอ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ 22 (สมพ.22) และจะรายงานให้ศึกษาธิการจังหวัดนครพนม ทราบอย่างเร่งด่วนแล้ว หากสอบสวนมีการกระทำผิดจริงจะดำเนินการตามระเบียบเด็ดขาดไม่มีละเว้น