อดีตนายทหารเกษียณอายุ ตกเป็นหนี้แบงก์ 6 แสนบาท ทั้งที่ไม่เคยยื่นกู้

ร.ต.ทักษิณ สัมฤทธิ์ อายุ 60 ปี ข้าราชการบำนาญ สังกัดกองทัพบก อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.5 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า ได้ตกเป็นหนี้ธนาคารแห่งนี้ เกือบล้านบาท โดยที่ไม่เคยยื่นกู้ และไม่เคยเข้าไปติดต่อทำธุรกรรมใดๆ กับธนาคารมาก่อน

ร.ต.ทักษิณ เล่าว่า เกษียณอายุราชการเมื่อตุลาคม 2560 ได้รับเงินบำเหน็จบำนาญตามปกติ ทราบว่ามีสิทธิได้รับอัตราเงินบำนาญเดือนละ 41,321 บาท จากกรมบัญชีกลาง และหักภาษีเดือนละ 399.38 บาท ส่วนเงินที่เหลือกรมบัญชีกลางจะโอนเข้าบัญชีธนาคารอีกแห่งหนึ่งเดือนละ40,921.62 บาท จะกดเงินด้วยบัตรเอทีเอ็มเท่าที่ความจำเป็นจะต้องใช้ในแต่ละเดือนส่วนเงินที่เหลือก็ไม่เคยสนใจเบิกเกินมาไม่เคยตรวจเช็คยอดเงิน เพราะเงินอยู่กับกระทรวงการคลังไม่ใช่เงินค้างในบัญชีธนาคาร

ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 26 พ.ค.63 ได้ปรึกษากับภรรยาว่าจะสร้างขนำภายในพื้นที่การเกษตรสัก 1 หลัง เพื่อเอาไว้พักผ่อนยามเข้าสวน จึงได้ไปติดต่อที่สำนักงานสัสดี จังหวัดตรัง เพื่อขอเอกสารหลักฐานเตรียมยื่นกู้เงินกับธนาคาร ปรากฏว่า เมื่อไปถึงได้รับคำตอบว่า"ได้ยื่นกู้เงินไปแล้ว ไม่มีสิทธิจะกู้ได้อีก" ก็ตกใจเพราะไม่เคยใช้สิทธิยื่นกู้เงินมาก่อน จึงขอดูเอกสารหลักฐาน ก็พบว่ากรมบัญชีกลาง หักเงินบำนาญของตนเองไปทุกเดือนๆ ละ 3,950 บาท เพื่อจ่ายหนี้เงินกู้ เอกสารระบุกู้เงินตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2562 เป็นเงิน 600,000 บาท ระยะเวลาการกู้ 360 เดือน และถูกหักเงินมาแล้วเป็นเวลาประมาณ 1 ปี รวมยอดเงินแล้ว 47,400 บาท และพบว่าแต่ละเดือนกรมบัญชีกลาง จะโอนเงินบำนาญที่เหลือจากการหักหนี้เงินกู้ เข้าบัญชีธนาคารเพียงเดือนละ 36,971.62 บาทจึงไม่เคยทราบความผิดปกตินี้ เชื่อว่าต้องมีคนมาปลอมยื่นกู้

เมื่อได้สอบถามอย่างละเอียด ทราบว่า ผู้ที่มากู้ธนาคาร ไปกัน 2 คน เป็นผู้หญิง 1 คนและผู้ชายอายุราว 30 ปีเศษอีก 1 คน แอบอ้างว่าเป็นร.ต.ทักษิณ แล้วธนาคารก็ให้กู้ไป ได้บอกกับธนาคารว่า "ผมอายุ 60 ปี คนไปกู้อายุ 30 ปีเศษ ห่างไกลกันมาก ธนาคารให้กู้ได้อย่างไร" จากนั้นจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรังเพื่อให้อบสวนดำเนินคดีนี้