posttoday

3เดือนใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินคดีลด แต่โกงออนไลน์พุ่ง ตร.เล็งตั้งกองบัญชาการปราบเป็นการเฉพาะ

28 พฤษภาคม 2563

ตำรวจเผยสติถิ3เดือนใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเหตุอาญากรรมดาลด แต่โกงออนไลน์ หลอกขายของ การพนันพุ่ง ผบ.ตร.เล็งตั้งหน่วยงานระดับ"กองบัญชาการ"ปราบปรามเป็นการเฉพาะ

เมื่อวันที่ 28พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงภาพรวมของเหตุอาชญากรรม ในช่วงประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย เปิดเผยว่า จากสถิติภาพรวมตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 – 23 พฤษภาคม 2563 หลังประกาศ พ.ร.กฉุกเฉินฯ พบว่า เหตุอาชญากรรมลดลง เมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปี 2562 โดยคดีการกระทำความผิดเกี่ยวกับชีวิตร่างกาย เพศ ลดลง 709 คดี, ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ลดลง 54 คดี, ความผิดพิเศษ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ร.บ.ป่าไม้ คดีเกี่ยวกับเงินกู้ หนี้นอกระบบและคดีอื่น ๆ ลดลง 986 คดี ขณะที่คดีความผิดต่อรัฐ ทั้งยาเสพติด อาวุธปืน และการพนันมีสถิติจับกุมเพิ่มขึ้น 25,697 คดี ซึ่งเป็นผลมาจากการตั้งด่านตรวจเคอร์ฟิว และการส่งสายตรวจไปตามแหล่งชุมชน

โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า จากสถิติจะเห็นได้ว่าการประกาศเคอร์ฟิว ปิดสถานบริการ ห้ามจำหน่ายสุรา ส่งผลให้คดีอาญากรรมลดลง รวมถึงอุบัติเหตุการจราจร เนื่องจากเมาแล้วขับ และเด็กแว้นลดลง เช่นเดียวกับคดีอาชญากรรมที่คนต้องเผชิญหน้าเนื่องจากคนออกจากบ้านน้อยลง แต่ในทางกลับกัน คดีที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ในความผิดเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงออนไลน์ หลอกขายสินค้า ตั้งแต่หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ขณะที่คดีความมั่นคงการชุมนุมไม่มีเลยเพราะชุมนุมไม่ได้

อย่างไรก็ตามพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ปรับรูปแบบการทำงานของตำรวจ ให้สอดคล้องกับรูปแบบอาชญากรรมที่เปลี่ยนไป จัดตั้งหน่วยงานพิเศษ ขึ้นสืบสวนและดูแลคดีที่ใช้เทคโนโลยีออนไลน์โดยตรง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดตั้งกองบัญชาการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยล่าสุดผบ.ตร.เห็นชอบหลักการ นำเข้าที่ประชุมบริหารตร.ที่มีรองผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติเห็นชอบขณะนี้เตรียมโครงสร้างอัตรากำลังไว้แล้ว รองนำเข้าที่ประชุมก.ตร.และก.ต.ชงต่อไป

"จากสถิติอาชญากรรมที่มีนัยยะสำคัญในช่วงประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน.ฯผบ.ตร.สั่งการให้ตำรวจเชื่อมโยงฐานข้อมูลคดีอาชญากรรมให้ครอบคลุมเข้าถึงสถานีตำรวจทั่วประเทศ และพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้ตำรวจตรวจสอบได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการให้เก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมด โดยจะมีการนำข้อมูลไปปรับใช้ในมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3" พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว