"บังแหล๊ะ" ปัดเผาป้ามาลัย แต่ช่วยสาดน้ำดับไฟ

สงขลา-จะให้ขอโทษคงไม่..เพราะผมไม่ได้ทำ"เปิดใจผู้ต้องหาถูกกล่าวหาเผาป้ามาลัย อ้างเป็นคนช่วยดับไฟ ที่ต้องหนีเพราะกลัวเนื่องจากจากกระแสข่าวรุนแรงมาก

นายส่อแหล๊ะ หรือแหล๊ะ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้พร้อมภรรยา คดีที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นเจ้าของยาไอซ์ แล้ร่วมกันราดน้ำมันจุดไฟเผา นางมาลัย ชุมประมาณ อายุ 48 ปี หรือ ป้ามาลัย เพราะแค้นที่นำยาไอซ์ 300 กรัมไปละลายน้ำทิ้ง กล่าวเปิดใจจากห้องคุมขัง สภ.บางกล่ำ จ.สงขลาว่า ไม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุอยู่บ้านพักในละแวกเดียวกันขนำของป้ามาลัย และเห็นไฟลุกไหม้ พร้อมกับเสียงดังจึงได้วิ่งไปช่วยสาดน้ำดับไฟ ขณะนั้นไม่เห็นป้ามาลัยแล้ว และมาทราบเหตุการณ์ทั้งหมดในภายหลัง แต่ยอมรับว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติดจริง

ส่วนสาเหตุที่หลบหนี เพราะกลัวเนื่องจากข่าวที่ออกมาแรงมาก กลัวถูกจับจึงหนีกันไปกบดานที่ ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา พร้อมกับภรรยา แก้วและเป้ จากนั้นต่างคนต่างหนีไปกบดานอยู่ที่ ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กับภรรยา ก่อนถูกตำรวจจับกุมได้

"เรื่องที่เกิดขึ้นผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยเข้าไปช่วยดับไฟด้วยซ้ำ แต่ข่าวที่ออกมาดูเหมือนโหดร้ายมาก แต่จะให้ขอโทษป้ามาลัยคงไม่เพราะไม่ได้ทำจริง"

อย่างไรก็ตาม บังแหล๊ะ ถูกแจ้งดำเนินคดี 3ข้อหา คือร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย,กระทำการหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย,และความผิดต่อพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (เมทแอมเฟตามีน)ครอบครองเพื่อจำหน่าย หลบหนีไม่มาศาลเนื่องจากมีหมายจับคดียาเสพติดติดตัวอีก1คดี.