"สมคิด"สารภาพลงมือฆ่า ไร้อาการสำนึกผิด บอกไม่กลัวตาย

"สมคิด พุ่มพวง" สารภาพทะเลาะกับเหยื่อจนบันดาลโทสะจึงลงมือฆ่า ตำรวจเผยไม่มีอาการสำนึกผิดแถมยังบอกไม่กลัวตาย 

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.62 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องแถลงการจับกุมนายสมคิด พุ่มพวง ผู้ต้องหาฆาตกรรมหญิงในพื้นที่ จ.ขอนแก่น

พล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่า หลังก่อเหตุนายสมคิดได้หลบหนีไปในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดมหาสารคาม ก่อนจะนำรถจักรยานยนต์ของเหยื่อไปจอดไว้ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์แล้วขึ้นรถไฟ ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ธ.ค.62 มุ่งหน้าปลายทาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งต่อมาเวลา 10.00 น. ชุดสืบสวน สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาได้บูรณาการร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม ,กองบังคับการตำรวจรถไฟ ,ทหาร และฝ่ายปกครอง เข้าทำการจับกุมนายสมคิดได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

"ในชั้นจับกุม นายสมคิดยอมรับว่า เป็นบุคคลเดียวกับบุคคลตามหมายจับ และให้การรับสารภาพ"พล.ต.ท.พูลทรัพย์ กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช. ภ.3 ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางการหลบหนีของนายสมคิด ว่า หลังก่อเหตุได้พยายามหลบหนีไปที่อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น แล้วใช้จักรยานยนต์ของผู้ตายขับหลบหนีไปนอนพักค้างแรมอยู่ที่จังหวัดมหาสารคาม 1 คืน จากนั้นไปพักค้างแรมที่ รพ.บุรีรัมย์ อีก 1 คืนเพื่อหลบหนีการจับกุม โดยจอดรถจักรยานยนต์ของผู้ตายทิ้งไว้ที่ รพ.ในจังหวัดบุรีรัมย์ แล้วขึ้นรถไฟหลบหนี

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะให้แพทย์มาตรวจร่างกายนายสมคิดอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อประเมินอาการทางจิตด้วย

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม เปิดเผยพฤติกรรมของนายสมคิดว่า หลังจากผู้ต้องหาออกจากคุกเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2562 ก็ใช้ชีวิตตามปกติ จนกระทั่งเริ่มคบหากับผู้ตายโดยรู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ค

ก่อนเกิดเหตุ นายสมคิดได้มีปากเสียงรุนแรงกับผู้ตาย จึงเกิดบันดาลโทสะลงมือฆ่าด้วยการรัดคอ ซึ่งที่ผ่านมานายสมคิดจะใช้วิธีฆ่าเหยื่อด้วย การกดน้ำ ,เอามือบีบคอ ,ใช้ผ้ารัดคอ รวมถึงใช้สายชาร์จโทรศัพท์รัดคอ โดยไม่ใช้อาวุธปืนหรือมีด แต่จะใช้อุปกรณ์ที่หาได้ในบ้า

"หลังถูกจับกุมผู้ต้องหาบอกว่าไม่กลัวตาย เพราะเกิดมาตายได้ครั้งเดียว ผู้ต้องหามีอาการซึมเล็กน้อยแต่ไม่ได้มีอาการสำนึกผิด"พล.ต.ต.จิรภพ กล่าว