posttoday

มือปืน รัวหมดแม็ก!แค้นชายวัยคราวพ่อ ดูหมิ่นมารดา อนาจารภรรยา

30 พฤศจิกายน 2562

ฉะเชิงเทรา-มือปืน สารภาพยิงชายวัยคราวพ่อหมดรังเพลิง แค้นผู้ตายดูหมิ่นมารดาเป็นโสเภณี และลวนลามภรรยาของผู้ต้องหาในบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ

ฉะเชิงเทรา-มือปืน สารภาพยิงชายวัยคราวพ่อหมดรังเพลิง แค้นผู้ตายดูหมิ่นมารดาเป็นโสเภณี และลวนลามภรรยาของผู้ต้องหาในบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ

เมื่อวันที่ 30พ.ย.62 พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา นำผู้ต้องหาชายอายุ35ปีใช้อาวุธปืนยิงนายสมคิด ม่วงขาว อายุ 53 ปี เหตุเกิดขึ้นบนถนนสายบ้านซ่อง-หนองสองห้อง พื้นที่ ม.13 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทราเมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 26 พ.ย.62

มือปืน รัวหมดแม็ก!แค้นชายวัยคราวพ่อ ดูหมิ่นมารดา อนาจารภรรยา

พล.ต.ต.ธีรพล กล่าวว่า ทางการสืบสวนว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้ลงมือก่อเหตุด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอหมายค้นบ้านพัก ตรวจยึดอาวุธปืน ยี่ห้อกล็อก ขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุมาได้ 1 กระบอก จึงยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทราเพื่อขอหมายจับ จนได้รับการอนุมัติหมายจับ เลขที่ 402/2562 ลงวันที่ 29 พ.ย.62 ข้อหา "ฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต"

มือปืน รัวหมดแม็ก!แค้นชายวัยคราวพ่อ ดูหมิ่นมารดา อนาจารภรรยา

หลังถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก และถูกศาลออกหมายจับจึงได้ติดต่อขอเข้ามามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี ให้การยอมรับสารภาพ ว่า เป็นผู้ที่ใช้อาวุธปืนลงมือก่อเหตุและไม่สมัครใจที่จะไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุส่วนสาเหตุเพราะความโกรธแค้น ที่ถูกผู้ตายดูหมิ่นเหยียดหยามศักดิ์ศรีของผู้เป็นมารดา ทำนองว่า เป็นผู้หญิงหากินหรือโสเภณี ขณะที่เมาสุราในบ้านของผู้ต้องหาซึ่งเปิดเป็นร้านค้าของชำประจำหมู่บ้านอยู่เป็นประจำแถมแอบเอาเป้ากางไปถูเข้ากับทางด้านบั้นท้ายของภรรยาของผู้ต้องหาขณะที่กำลังก้มทำงานอยู่ภายในบ้านด้วย

"ส่วนตัวไม่ได้รู้จักคุ้นเคยกันกับผู้ตายมาก่อน แต่เป็นเพียงคนในหมู่บ้านย่านเดียวกันจึงได้ตัดสินใจนำอาวุธปืนของผู้เป็นบิดาซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว พกติดตัวขับรถจักรยานยนต์ติดตามผู้ตายออกไปจากบ้านและได้ถือมีดอีโต้ติดตัวไปด้วยอีก 1 เล่ม เมื่อมาถึงยังจุดเกิดเหตุจึงได้ใช้มีดอีโต้ ฟันลงไปที่ศีรษะของผู้ตาย แต่ไม่เข้าเนื้อเนื่องจากปลายมีดไปถูกเข้ากับหมวกกันน็อกของผู้ตายจนด้ามหัก ประกอบกับตัวมีดไม่มีความคม จนถูกผู้ตายร้องด่า และเยาะเย้ยในทำนองดูถูกเหยียดหยามบุพการีเหมือนเดิม จึงทำให้ยิ่งทวีความโกรธแค้นและบันดาลโทสะเพิ่มมากขึ้น จึงได้ใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวยิงใส่ผู้ตาย จนกระสุนหมดแม็กกาซีน ก่อนที่จะหลบหนีไป และยินยอมเข้ามามอบตัวในที่สุด"