ทะเลาะเรื่องหมา! มือยิงสารภาพแค้นบุกสาดกระสุนถล่มบ้านอริโดนเด็ก14ดับ

มือปืนยิงบ้านเด็กหญิงวัย14ดับ สารภาพสาเหตุจากแค้นถูกพ่อเด็กเตะหลังทะเลาะเรื่องหมากินน้ำหวาน ระบุอะไรขวางหน้ายิงแหลก

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี 5 คนร้ายบุกยิงถล่มบ้านพักใน ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 8 พ.ย.62 ที่ผ่านมา ทำให้ ด.ญ.ศศิประภา ยี่สุ่นแซม อายุ 14 ปี บาดเจ็บสาหัสก่อนจะเสียชีวิตที่ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช โดยศพของ ด.ญ.ศศิประภา ได้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิดเหตุ ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้อง ขณะตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาแล้ว 2 คนนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 62 ที่ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้ประชุมสอบผู้ต้องหา คดีร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น และ พ.ร.บ.อาวุธปืน กรณียิงถล่มบ้าน ด.ญ.ศศิประภา เสียชีวิต ซึ่งยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้ต้องหา 3 คน แต่เมื่อสอบสวนแล้วพบว่า 1 คนไม่เกี่ยวข้องจึงปล่อยตัวไป ส่วนอีก 2 คนได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยสาเหตุมาจากทะเลาะเตะกัน หลังมีปากเสียงกันเรื่องสุนัขกินน้ำหวาน 

สำหรับผู้ต้องหาที่ตำรวจนำหลักฐานไปขอหมายศาลเพื่อออกจับจำนวน 5 คน จับกุมตัวได้แล้ว 2 คน คือนายอนุศักดิ์ อายุ 27 ปี และนายวัชระ อายุ 26 ปี ส่วนอีก 3 คน ที่ยังหลบหนีการจับกุมคือนายวัฒนา อายุ 28 ปี , นายขุนพล อายุ 25 ปี และนายวิศณุ อายุ 27 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ออกไล่ล่ามาอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่เจอตัว แต่ตำรวจมั่นใจว่าจะสามารถจับกุมได้ทั้งหมดอย่างแน่นอน

พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ระบุว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและคดีอาวุธปืน ซึ่งก่อนจะไปก่อเหตุได้เสพยาเสพติดกันก่อน ส่วนสาเหตุนายอนุศักดิ์ เจ็บแค้นที่ถูก พ่อของเด็กดุด่าและเตะ 1 ที หลังมีปากเสียงกันเรื่องที่นายอนุศักดิ์นำน้ำหวานของพ่อเด็กไปเทให้สุนัขกินในร้านค้า จึงไปขอยืมปืนของนายวัฒนา เพื่อจะไปยิงบ้านพ่อเด็ก และชักชวนเพื่อน 5 คนไปก่อเหตุ

ด้านนายอนุศักดิ์ ผู้ต้องหาที่เป็นต้นเรื่อง ยอมรับสารภาพว่า เจตนาคือต้องการไปยิงบ้านคู่อริเพื่อข่มขู่ที่ถูกเตะเท่านั้น ไม่ได้หวังให้กระสุนปืนไปถูกใคร แต่พอก่อเหตุกันแล้วกลับควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ต่างคนต่างสาดกระสุนใส่ทั้งบ้านใกล้เคียงและรถยนต์ หรืออะไรที่ขวางหน้ายิงหมด กระทั่งตนเองมาถูกจับกุมก่อนเพื่อน ส่วนนายวัชระ เป็นคนชี้บ้านของคู่อริ ให้ยิงถล่มกันและถูกจับในวันต่อมา

"ผมพร้อมที่จะไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่หวั่นเกรงเรื่องความปลอดภัย อาจถูกญาติของผู้เสียหายทำร้าย ถ้าตายเลยก็จบไป แต่ถ้าไม่ตายพิกลพิการจะกลายเป็นภาระของมารดาที่อยู่ข้างหลัง ซึ่งเรื่องทั้งหมดลุกลามบานปลายไปขนาดนี้ทำให้เสียใจมาก และอยากขอโทษกับทุกคนแต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ถ้าเป็นไปได้ขอตายแทนเด็กหญิง"นายอนุศักดิ์ กล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเพื่อไปขออำนาจศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ฝากขังโดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว

ขณะที่ มารดาของ เด็กหญิง ได้เข้าร่วมคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ด้วย ส่วนคนร้ายอีก 3 คนที่ยังหลบหนีอยู่นั้น พล.ต.ต.สนธิชัย ได้สั่งการให้เร่งออกไล่ล่าติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป