posttoday

ตร.ภาค 4 ลุยค้นแหลก 5 จุดล่าทรัพย์สินแชร์แม่มณียึดเพิ่มได้อีก 27 ล้าน

05 พฤศจิกายน 2562

อุดรธานี-ตำรวจภาค 4 ลุยค้น 5 จุดตามล่าทรัยพ์สินแชร์แม่มณีเพิ่มได้อีกกว่า 27 ล้าน ภาคอีสานมีผู้หลงกลแล้ว 290 รายเสียหาย 160 ล้านบาท พร้อมออกหมายจับอีก 2 ราย

อุดรธานี-ตำรวจภาค 4 ลุยค้น 5 จุดตามล่าทรัยพ์สินแชร์แม่มณีเพิ่มได้อีกกว่า 27 ล้าน ภาคอีสานมีผู้หลงกลแล้ว 290 รายเสียหาย 160 ล้านบาท พร้อมออกหมายจับอีก 2 ราย

เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่กองกำกับการสืบสวนภูธรอุดรธานี มีการประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ภาค 4 , สืบสวนภูธร จ.อุดรธานี และสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ก่อนแยกย้ายนำหมายค้นศาล จ.อุดรธานี เข้าตรวจค้นกลุ่มเป้าหมายรวม 5 จุด ซึ่งเกี่ยวข้องกับ น.ส.วันทนีย์ หรือ เดียร์ หรือแม่มณี ทิพย์ประเวช อายุ 30 ปี

ตร.ภาค 4 ลุยค้นแหลก 5 จุดล่าทรัพย์สินแชร์แม่มณียึดเพิ่มได้อีก 27 ล้าน

ทั้งนี้ ประกอบด้วย 1.บ้านแม่ของนางมณี เลขที่ 651|407 บ้านเอื้ออาธร อุดรธานี 3 อ.เมือง อุดรธานี , 2.บ้านเลขที่ 145 |19 ประชารักษา 9 ของนางพิลัยวรรณ ไม่ทราบนามสกุล แอดมินเพจ ฝากยอดต่ออนาคต (พญานาค) , 3.บ้านเลขที่ 75 ม.7 บ้านหนองหญ้าไซ ต.หนองหญาไซ อ.วังสามหมอ น.ส.สุพรรณี นิกรกุล อายุ 27 ปี หุ้นส่วนเครื่องสำอางและพนักงานในสำนักงาน , 4.บ้านไม่ทราบเลขที่ของนางพรสวรรค์ ภูอินอ้อย ซอยปู่สวรรค ต.หนองบัว อ.เมือง และ 5 บ้านเลขที่ 339|36 ซอยประชาสันติของนายปิยะ คีรีสุวรรณกุล

นอกจากนั้น ในช่วงบ่ายยังเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ เลขที่ 80/41 ซอยจินตคาม ทน.อุดรธานี อาคารที่เป็น สนง.เครื่องสำอางมนิลา ของ น.ส.เดียร์ เพื่อทำการเปิดตู้เซฟ ยี่ห้อเวิร์ดเซฟ ขนาดใหญ่สูง 1.50 เมตร ที่ตรวจยึดไว้บริเวณชั้น 1 โดยตำรวจได้ใช้อุปกรณ์(ลูกหมู) ตัดที่บานพับ 2 ชุดขาดออกจากกันแล้ว จากนั้นได้ใช้ชะแลงงัดแต่เปิดออกไม่ได้ ทำได้เพียงแง้มดูเท่านั้นซึ่งไม่พบว่าด้านในมีอะไร ใช้เวลากว่า 40 นาที จากนั้นจึงยกเซฟจากห้องนอนชั้น 2 มาที่ กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี

พล.ต.ต.นันทชาติ ยังร่วมตรวจสอบการเปิดตู้เซฟที่นำมาจากห้องนอนของ น.ส.เดียร์ ขนาดความสูง 60 ซ.ม. เป็นตู้ที่ 3 ใช้เวลาเพียง 20 นาทีก็เปิดตู้ออกมาได้ ภายในไม่มีอะไรนอกจากถุงกันความชื้น เหมือนกับเซฟไม่เคยใช้งานมาก่อน เชื่อว่าตู้เซฟทั่งหมดเป็นเพียงการสร้างภาพของขบวนการแชร์ลวงโลก เหมือนกับฉากร้านทองปลอม

พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผย คาดว่าจะออกหมายจับได้เพิ่มอีก 2 คน ซึ่งเป็นคนใกล้ชิด และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำนิติกรรมของแม่มณี บอกไม่ได้ว่าเป็นใครบ้าน เพราะอยู่ในสำนวน ในการตรวจค้นวันนี้เกี่ยวข้องกับคนที่จะออกหมายจับและไม่ออกหมายจับ

ทั้งนี้ จากการตรวจค้นในหลายจุดไม่ได้อะไรเพิ่มเติมมากนัก แต่จะมีการหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน เป็นคนใกล้ชิดผู้ต้องหา ไปเกี่ยวกับการทำนิติกรรม รายละเอียดอยู่ในสำนวนสอบสวน และอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมน่าจะได้ผู้ต้องหาเร็วๆนี้

สำหรับ การงัดตู้เซฟความจริงเราไม่อยากงัด แต่ผู้ต้องหาบอกว่า ไม่รู้กุญแจอยู่ไหน รหัสก็จำไม่ได้ เมื่อเปิดออกมาก็ไม่พบอะไรข้างในจึงตอบไม่ได้ว่าเป็นตู้เซฟเปล่าที่ตั้งใจเอามาวางไว้ หรือเปิดเอาทรัพย์สินออกไปหมดแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 และ พล.ต.ต.นันทชาติ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดี “แชร์ออมเงิน-ออมทองแม่มณีลวงโลก” ว่า จากการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 5 จุด และสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 2 คน ประกอบด้วย นายปิยะ คีรีสุวรรณกุล อายุ 23 ปี และ น.ส.พรสวรรค์ ภูอิงอ้อย อายุ 19 ปี ในข้อหาเดียวกันกับ น.ส.วันทนีย์ หรือ เดียร์ หรือแม่มณี ทิพย์ประเวช อายุ 30 ปี และนายเมธี ชินภา อายุ 20 ปี สามี ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำกลางอุดรธานี ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการเงิน

นอกจากนั้น ตำรวจได้ทำการตรวจยึดเงินสด รวม 11,065, 000 บาท อายัดทรัพย์สิน 16,250,000 บาท ประกอบด้วย เงินฝากธนาคาร 2 บัญชี 8,500,000 บาท และ 60,00 , รถยนต์โตโยต้ายาริส 1 คัน มูลค่า 700,000 บาท , รถยนต์โตโยต้าเรโว 1 คัน มูลค่า 1,000,000 บาท , รถยนต์ฮอนด้าชีวิก 1 คัน มูลค่า 1,000,000 บาท , รถจักรยานยนต์ PCX 1 คัน มูลค่า 100,000 บาท

ตรวจยึดบ้านเดี่ยว 1 หลัง มูลค่า 2,600,000 บาท (หมู่บ้านรชยา บ้านช้าง) , บ้านเดี่ยว1 หลัง มูลค่าประมาณ 1,700,000.- บาท (หมู่บ้านศุภาลัย บ้านจั่น) , ตรวจยึดแหวนทองคำ 6 วง หนัก 40.6 กรัม มูลค่า 50,000 บาท ยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่า 27,315,000 บาท รวมยึดอายัดมาแล้ว 127 ล้านบาท

พล.ต.ท.เจริญวิทย์ กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งกำชับมา ใครที่เข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันคดีนี้ให้ดำเนินการติดตามทรัพย์คืน ไม่ว่าจะเป็นการรับฝาก ปิดบัง ซ่อนเร้น ขอให้ติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหากใครมีเบาะแสให้มาแจ้ง เพื่อเอาทรัพย์กลับไปคืนผู้เสียหาย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนถึงก็จะต้องดำเนินการกฎหมาย

สำหรับ ผู้เสียหายที่มาแจ้งความดำเนินคดีในส่วนของ 12 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมทั้งสิ้น 290 ราย ความเสียหาย 160 ล้านบาท มีของจ.อุดรธานีอยู่ในนั้น 266 ราย ความเสียหาย 135 ล้านบาท ตำรวจยังคงรับแจ้งความ สอบสวนดำเนินคดี ออกหมายจับติดตามจับกุม และติดตามทรัพย์ต่อไปไม่หยุด