posttoday

พช.ยึด"โก่งธนูโมเดล"เป็นต้นแบบการบริหารจัดการขยะทั่วประเทศ

04 พฤศจิกายน 2562

อธิบดีพช.ร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมีข้อสังการให้สำนักพัฒนาชุมชนทั่วประเทศบริหารจัดการขยะในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพโดยยึด"โก่งธนูโมเดล"เป็นต้นแบบ

อธิบดีพช.ร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมีข้อสังการให้สำนักพัฒนาชุมชนทั่วประเทศบริหารจัดการขยะในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพโดยยึด"โก่งธนูโมเดล"เป็นต้นแบบ

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) ร่วมรับเสด็จฯสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานการประชุมสิ่งแวดล้อมศึกษาโลกครั้งที่ 10 : The 10th World Environmental Education Congress (10th WEEC 2019 จัดโดย สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา โดยโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเอกชน อาทิ คณะสิ่งแวดล้อม ม.เกษตรศาสตร์ สถาบันโลกร้อนศึกษาโดยมูลนิธินภามิตร สำนักงานเครือข่ายสิ่งแวดล้อมศึกษาโลก บริษัท ปตท. และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ เป็นต้น จัดระหว่างวันที่ 3 - 7 พ.ย.2562 ณ ไบเทค บางนา

พช.ยึด"โก่งธนูโมเดล"เป็นต้นแบบการบริหารจัดการขยะทั่วประเทศ

ทั้งนี้ เป็นการประชุมระดับนานาชาติระหว่างประเทศที่เน้นการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายใต้หัวข้อ “Local Knowledge, Communication and Global Connectivity” (ภูมิปัญญาท้องถิ่น, การสื่อสารสิ่งแวดล้อมศึกษา และการเชื่อมโยงไปทั่วโลก) เพื่อสร้างความร่วมมือทางวิชาการของผู้เข้าร่วมประชุม นักวิชาการจากทั่วโลก และปราชญ์ท้องถิ่น ตลอดจนเยาวชนในประเทศที่กำลังพัฒนาได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันผลงาน เรียนรู้จากกันและกัน และร่วมกันกำหนดวิธีการที่จะจัดการกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของมนุษย์ รวมถึงภัยพิบัติธรรมชาติต่าง ๆ ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจึงถือเป็นความรับผิดชอบของทุกคน ทุกภาคส่วน ในการประชุมครั้งนี้ มุ่งหวังที่จะเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมด้วยวิธีทางธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นการจุดประกายให้เกิดการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาต่อยอดความรู้ในอนาคต

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของกรมการพัฒนาชุมชน ก็ได้ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมปฏิบัติเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เจ้าหน้าที่ในสังกัดทุกระดับ รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้มีการรณรงค์เรื่องการบริหารจัดการขยะอย่างถูกวิธี ตามแนวทาง 3 Rs คือ Reduce ใช้น้อย Reuse ใช้ซ้ำ และ Recycle นำกลับมาใช้ใหม่ ปลูกฝังให้ทุกคนเริ่มต้นจัดการขยะตั้งแต่ตัวเราเอง นอกจากนี้ได้มีการรณรงค์ให้มีการใช้ซ้ำแทนการทิ้ง การคัดแยกขยะแต่และประเภท และการลดการใช้หลอดพลาสติก เป็นต้น

สำหรับ ระดับชุมชนได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด และสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอทั่วประเทศ จัดให้มีการรณรงค์หมู่บ้าน ตำบล หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยยึด"โกงธนูโมเดล" เป็นต้นแบบ ซึ่งอบต.โกงธนู อ.เมือง จ.ลพบุรี ถือเป็นต้นแบบของการบริหารจัดการขยะที่ประสบผลสำเร็จ มีการส่งเสริมให้ทุกครัวเรือนมีการจัดการคัดแยกขยะ เรียนรู้ร่วมกันในหมู่บ้าน เพื่อนำไปสู่การบริหารจัดการคัดแยกขยะอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ต้นทางมีการทำธนาคารขยะประชารัฐ และนำเงินที่ได้มาจัดตั้งสวัสดิการ "เพื่อนช่วยเพื่อน"

นอกจากนั้น มีการทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์จากขยะเพื่อลดต้นทุนด้านการผลิต “ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน” ประจำครัวเรือน ซึ่งเป็นสารบำรุงดินที่หมักในถังขยะเปียกครัวเรือน นำไปใช้ประโยชน์ในแปลงผักตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” รวมถึงมีการทำนวัตกรรมพวงหรีดจักสานลดปริมาณขยะ ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย

นอกจากนี้ พช.ยังได้กำหนดเป้าหมายของปีนี้ด้วยว่า ให้พัฒนากรทุกคนเชิญชวนให้ประชาชนทุกครัวเรือนช่วยกันปฏิบัติตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการดูแลรักษาบ้านเรือนให้สะอาด มีการคัดแยกขยะ พร้อมทั้งจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน ที่นอกจากจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยให้มีสารบำรุงดิน และปลูกพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ที่ปลอดสารพิษ รวมทั้งยังได้มีการรณรงค์ให้คนไทย ทุกเพศ ทุกวัย หันมาสวมใส่ผ้าไทยให้มากขึ้น