posttoday

สั่งตั้งกรรมการสอบแล้ว! เหตุสาวม.6ถูกไฟคลอกขณะทำโครงงานส่งแก้ผลสอบ

09 กันยายน 2562

เขตพื้นที่การศึกษาฯ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เหตุ "น้องแอม" ถูกไฟคลอกขณะทำโครงงานเผาถ่านส่งครูเพื่อแก้ผลการสอบที่ตกยกชั้น

เขตพื้นที่การศึกษาฯ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เหตุ "น้องแอม" ถูกไฟคลอกขณะทำโครงงานเผาถ่านส่งครูเพื่อแก้ผลการสอบที่ตกยกชั้น

เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 62 ที่โรงเรียนพังทุยพัฒนศึกษา บ้านพังทุย ม.11 ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายเกียรติศักดิ์ หอมพิกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 ( ขอนแก่น) ,นายโกเมท พิมพ์เบ้าธรรม ผู้อำนวยการโรงเรียนพังทุยพัฒนศึกษา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.น้ำพอง เข้าทำการตรวจสอบเตาเผาถ่านที่อยู่ด้านหลังอาคารเรียนภายในโรงเรียนฯ ที่เกิดเหตุไฟคลอกนักเรียนจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส

จากการตรวจสอบพบว่าเตาเผาดังกล่าว ทำด้วยท่อซีเมนต์ขนาดความสูง 80 ซม.ความกว้าง 150ซม.ตั้งต่อกัน 2 ท่อ ด้านบนมีฝาซีเมนต์ปิดเอาไว้ และมีปล่องควันต่อกันเป็นสองท่อน เพื่อระบายควันไฟ ท่อนแรกเป็นท่อซีเมนต์ยาวประมาณ 2 เมตร ท่อนที่สองเป็นไม้ไผ่ ยาวประมาณ 2 เมตร บริเวณปล่องควันที่เป็นไม้ไผ่ มีการเจาะเพื่อรองรับนำควันไม้ด้วยขวดพลาสติก

จากนั้นคณะของนายอำเภอได้เดินทางไปที่บ้านของน้องแอม ที่หมู่บ้านดงเย็น ห่างจากโรงเรียนประมาณ 10 กม. เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจ น้องแอม นักเรียนที่บาดเจ็บ และครอบครัว

นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอน้ำพอง กล่าวว่า ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการโรงเรียนทางวาจาตั้งแต่เกิดเรื่องแล้ว ซึ่งทราบว่าทางโรงเรียนก็เดินทางมาเยี่ยมนักเรียนที่บ้านเจ็บอยู่อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทางอำเภอก็จะมีกิ่งกาชาดมาให้กำลังใจนักเรียนกับครอบครัว

"ฝากถึงครูและข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ให้ระมัดระวังการทำงาน การสั่งงาน ว่า งานที่ลงมือทำนั้น สุ่มเสี่ยงในการที่จะเกิดอันตรายหรือมีสารเคมีใดๆหรือไม่ หากคิดว่ามีความเสี่ยงก็ต้องคอยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนนักเรียน ก็ควรมีความระมัดระวัง มีความรอบคอบ และอยู่ในความดูแลของผู้รู้ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุอันตรายได้ เช่นเดียวกับน้องแอม ที่เพิ่งประสบเหตุไฟลวก ถ้ามีการควบคุมดูแลกันอย่างใกล้ชิด ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น"นายศุภชัยกล่าว

สั่งตั้งกรรมการสอบแล้ว! เหตุสาวม.6ถูกไฟคลอกขณะทำโครงงานส่งแก้ผลสอบ

ขณะที่ นายเกียรติศักดิ์ หอมพิกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25 ( ขอนแก่น) กล่าวว่า หลังทราบเรื่องได้ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนและครูที่สอนวิชาดังกล่าวเข้าชี้แจงที่สำนักงานแล้ว ทราบว่าเกิดขึ้นจากการทำโครงงาน ซึ่งทาง ผอ.ฯรายงานว่า ได้พาน้องเข้า โรงพยาบาลน้ำพองก่อนจะส่งไปขอนแก่น และคณะครูได้ไปเยี่ยมประจำ

ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทาง สพม.เขต 25 ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง พร้อมมอบเงินจากกองทุนช่วยเหลือเบื้องต้น

"โครงงานที่ทำเกี่ยวกับโครงงานฟิสิกส์ จากการสอบถามเบื้องต้น ครูให้ข้อเสนอแนะกับเด็กๆแล้ว ซึ่งก่อนจะนำน้ำมันไปราดนั้น นักเรียนได้มาสอบถามแต่ครูติดประชุม นักเรียนจึงตัดสินใจนำน้ำมันมาราด อาจจะไม่ทราบว่าน้ำมันเบนซินนั้นไวไฟขนาดไหน และเตาเผานั้น ไม่ทราบว่าสร้างจากอะไร ปูนกับไฟจะร้ายแรงขนาดไหน ซึ่งเป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กๆ ไม่ได้มองว่าเป็นการประมาทเลินเล่อ และอาจจะเป็นความใจร้อนของเด็กๆ แต่ก็ยังต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามลำดับขั้นตอน"นายเกียรติศักดิ์ กล่าว

นายเกียรติศักดิ์ กล่าวอีกว่า สพม.25 ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยมีนิติกรของ สพม.25 เป็นหัวหน้าชุด และต้องสรุปผลการตรวจสอบโดยเร็ว ในกรณีที่เกิดขึ้น ตามที่ได้ข้อมูลจากนักเรียนว่ามี 3 ตัวเลือกให้นักเรียนทำ เพื่อส่งให้ครูผู้สอนแล้วจะได้คะแนน โดยเฉพาะตัวเลือกที่ว่าซื้อสิ่งของนั้น ต้องตรวจสอบว่า สิ่งของดังกล่าวเกี่ยวข้องกับโครงงานใด เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน หรือของใช้ส่วนตัว ซึ่งต้องตรวจสอบให้ชัดเจน

ส่วนกรณีที่ว่านักเรียนสอบตกวิชาฟิสิกส์ทั้งชั้นนั้น เชื่อว่า เป็นเพราะครูเคร่งครัดในการเรียนการสอน และตั้งมาตรฐานไว้สูง จนทำให้นักเรียนสอบไม่ผ่าน ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้ก็เพื่อนให้กำลังใจนักเรียนพร้อมครอบครัวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ทอดทิ้ง และได้นำเงินจากกองทุนสวัสดิการของ สพม.25 จำนวน 10,000บาทมามอบให้ครอบครัวของนักเรียนด้วย

ด้าน นายชรินทร์ ลันบุตร อายุ 56 ปี บิดาของน้องแอม กล่าวว่า ภายหลังจากที่พบปะกับคณะนายอำเภอว่า รู้สึกดีใจและขอบคุณทุกภาคส่วน เพราะในความเป็นจริงครอบครัวไม่ได้อยากมีปัญหากับใคร แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากครูที่สั่งให้ลูกสาวทำโครงงานดังกล่าว แต่ไม่ใส่ใจดูแล จนเกิดเหตุขึ้น จริงอยู่ครูเคยมาเยี่ยมและพูดคุยกัน ครอบครัวขอเงินเยียวยา 100,000บาท แต่ไม่ได้ให้จ่ายครั้งเดียว จ่ายเมื่อมีความพร้อมหรือจ่ายปีใหม่ก็ได้ หรือต่อรองจำนวนมาก็ได้ แต่ครูปฏิเสธและไม่แสดงน้ำใจเลย ทั้งยังท้าทายให้ไปฟ้องเอา อีกทั้งปฏิเสธว่าไม่ได้ทำผิด จึงไม่จ่ายตามคำเรียกร้อง ทางครอบครัวจึงคิดว่า ครูไม่รับผิดชอบ จึงต้องเดินหน้าร้องขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง