posttoday

องค์กรต่อต้านโกงจี้ป.ป.ช.งัดกม.ในมือคุ้มครองครูอ้อม

29 สิงหาคม 2562

เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันชี้ปมคำสั่งย้ายครูอ้อมตอกย้ำความล้มเหลวแก้ทุจริตของไทย แนะป.ป.ช.ใช้อำนาจตามกฎหมายในมือคุ้มครองคนดี

เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันชี้ปมคำสั่งย้ายครูอ้อมตอกย้ำความล้มเหลวแก้ทุจริตของไทย แนะป.ป.ช.ใช้อำนาจตามกฎหมายในมือคุ้มครองคนดี

ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีคำสั่งย้ายครูอ้อมอารีย์ แข็งฤทธิ์ครูอนุบาลโรงเรียนวัดวงเดือน ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อ.หันคา จ.ชัยนาท และต่อมาได้มีคำสั่งย้ายไปปฏิบัติราชการช่วยปฏิบัติงานที่ สพป.ชัยนาท แต่สุดท้ายก็มีคำสั่งให้ ครูอ้อม กลับไปปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียน ตอกย้ำความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันของไทยพฤติกรรมชั่วร้ายทำนองนี้กำลังเกิดขึ้นทั่วไป เพียงแต่ส่วนใหญ่ผู้พบเห็นไม่กล้าพูดเพราะกลัวอิทธิพลและการคุกคาม ดังที่ครูอ้อมโดนกระทำอยู่

"การปกป้องคนที่อาสาทำดีเพื่อสังคมนั้นทำได้ หาก ป.ป.ช. ใช้อำนาจตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. มาตรา 131,132,133 มาคุ้มครองคนดีอย่างจริงจัง เพื่อให้ทุกคนมั่นใจ และกล้าพูดกล้า เปิดเผยกลโกงที่พบเห็น (Whistle blower protection) โดยเริ่มจากกรณีครูอ้อมในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้แจ้งเบาะแส และให้ข้อมูลแก่ ป.ป.ช." ดร.มานะ กล่าว

ทั้งนี้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 131,132และ133 กำหนดสาระสำคัญว่า ให้อำนาจคณะกรรมการป.ป.ช. จัดให้มีมาตรการคุ้มครองช่วยเหลือแก่ผู้แจ้งเบาะเรื่องการทุจริต และในกรณีที่ผู้แจ้งเบาะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หากคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่าหากยังคงปฏิบัติหน้าที่ในสังกัดเดิมต่อไป อาจถูกกลั่นแกล้งหรือได้รับการปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม อันเนื่องจากการแจ้งเบาะแสหรือข้อมูล และมีพยานหลักฐานเบื้องต้นอันควรเชื่อได้ว่าน่าจะมีเหตุดังกล่าวให้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการให้ได้รับความคุ้มครอง หรือมีมาตรการอื่นใดตามที่เห็นสมควรต่อไป และอาจเสนอให้มีการกําหนดตําแหน่งและสิทธิประโยชน์อื่น เพื่อคุ้มครองบุคคลนั้นในหน่วยงานของรัฐอื่น ที่ไม่ต่ำากว่าระดับและตําแหน่งที่บุคคลดังกล่าวเคยดํารงตําแหน่งอยู่เดิม

 

รายละเอีดเพิ่มเติมคลิ๊กอ่าน